หน้าแรก ข่าวอาชญากรรม  เจอข้อหาอ่วม! หนุ่มถ่ายอุจจาระลงทะเล เมืองพัทยา เจ้าท่าและตร.ท่องเที่ยว เอาจริงจับ-ปรับ หลังทำลายภาพลักษณ์ด้านท่องเที่ยว

 เจอข้อหาอ่วม! หนุ่มถ่ายอุจจาระลงทะเล เมืองพัทยา เจ้าท่าและตร.ท่องเที่ยว เอาจริงจับ-ปรับ หลังทำลายภาพลักษณ์ด้านท่องเที่ยว

72
0
แบ่งปัน

   จากกรณี ที่โลกสื่อสังคมออนไลน์ เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนัก หลังจากมีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “Boat Oi” โพสต์ข้อความว่า “กินข้าวหรือยัง น้าแบ้ ผมเป็นห่วง ใจบุญขนาดขี้ยังให้ปลากิน“ พร้อมคลิปวีดีโอผู้ชายคนหนึ่ง สวมเสื้อยืดคอกลมสีดำ ถกกางเกง เกาะท้ายเรือนั่งยอง หย่อนก้นปล่อยอุจจาระลงสู่น้ำทะเล ด้วยท่าทีและสีหน้าที่สนุกสนาน ท่ามกลางนักท่องเที่ยวกำลังขี่เจ็ทสกีเที่ยวเล่น และนั่งเรือเข้าฝั่ง ซึ่งภายในคลิปยังได้ยินเสียงยุยงจากคนรอบข้างให้ถ่ายอุจจาระเลย และชายคนดังกล่าวก็ทำตาม พร้อมให้คนถ่ายคลิปวีดีโอไว้ ว่า “ถ่ายเลย ถ่ายเลย” ก่อนที่ชายที่ปล่อยอุจจาระคนดังกล่าว ตามที่ได้มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

   ล่าสุดวันนี้ (30 ส.ค.67) นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา พร้อมด้วย นายเอกราช คันธโร ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาพัทยา พ.ต.ต.อภิชาติ จารุรักษ์ สว.ส.ทท.4 กก.2 บก.ทท.1 และ นายมาโนช หนองปรือ รองนายกเมืองพัทยา ร่วมแถลงชี้แจงการดำเนินการกับผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายและปรับทัศนคติ หลังทำลายภาพลักษณ์การท่องเที่ยวเมืองพัทยา

   นายปรเมศวร์  งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา กล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวเมืองพัทยาเป็นอย่างมาก ซึ่งเมือพัทยามีส่วนที่เกี่ยวข้องโดยตรง นอกจากภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวที่จะเสียหายแล้ว ยังเกิดความไม่สบายใจ ต่อประชาชนและนักท่องเที่ยว ซึ่งถือเป็นการกระทำที่อุจาด และไม่อยากให้มีใครมาทำและเลียนแบบอีกโดยกล่าวอ้างว่าเกิดความคึกคะนอกแล้วนำไปลงใน เฟชบุ๊ก จนมีการเผยแพร่ไปทั่ว ซึ่งการกระทำที่เกิดขึ้นตามอำนาจหน้าที่เมืองพัทยาเข้าข่ายการกระทำความผิด พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535 ที่ห้ามผู้ใดถ่ายอุจาระหรือปัสสาวะลงในที่สาธารณะหรือสาธารณะที่ไม่ใช่สถานที่ราชการท้องถิ่นที่จัดไว้เพื่อการนั้น มีโทษปรับ 2,000 บาท เมืองพัทยาจะดำเนินการปรับสูงสุดตามข้อบังคับดังกล่าวต่อไป

    ขณะที่นายเอกราช คันธโร ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาพัทยา กล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการกระทำผิดตามมาตรา 119 แห่งพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย พระพุทธศักราช 2456 แก้ไขเพิ่มเติมโดย พระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย (ฉบับที่ 14) พ.ศ.2535 บัญญัติว่า “ห้ามมิให้ผู้ใดเท ทิ้ง หรือทำด้วยประการใด ๆ ให้หิน กรวด ทราย ดิน โคลน อับเฉา สิ่งของหรือสิ่งปฏิกูลใด ๆ ยกเว้นน้ำมันและเคมีภัณฑ์ลงในแม่น้ำ ลำคลอง บึง อ่าง เก็บน้ำ หรือทะเลสาบ อันเป็นทางสัญจรของประชาชนหรือที่ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกันหรือทะเล ภายในน่านน้ำไทย อันจะเป็นเหตุให้เกิดการตื้นเขิน ตกตะกอนหรือสกปรก เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากเจ้าท่า ผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิดหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และต้องชดใช้เงินค่าใช้จ่ายที่ต้องเสียในการขจัดสิ่งเหล่านั้นด้วยพร้อมทั้งจะทำการตรวจหาข้อเท็จจริงเพิ่มและนำตัวผู้กระทำผิดดำเนินคดีตามกฎหมายพร้อมขยายว่ามีใครมีส่วนเกี่ยวข้องบ้าง และสนับสนุนผู้กระทำผิดหรือไม่ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุดังกล่าวขึ้นอีก

    ด้านพ.ต.ต. อภิชาต  จารุรักษ์  สารวัตร สถานีตำรวจท่องเที่ยว 4 กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว 1 กล่าวว่า ในส่วนของทางตำรวจท่องเที่ยวก็จะได้มีการประสานงานกับพนักงานสอบสวนเพื่อดูความผิดในมาตรอื่น ๆ นอกจากที่กล่าวมาแล้วนั้น ก็จะมีเรื่องขอการนำข้อมูลเข้าสู่คอมพิวเตอร์ และจะมีการดูว่าจะมีใครร่วมกระทำผิดอีกบ้าง อีกทั้งจะเร่งประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจกับนักท่องเที่ยว เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวต่อไป

   โดยนายโอม นามสมมุติ  ซึ่งเป็นบุคคลที่ปรากฏในคลิป ซึ่งเจ้าตัวก็ยอมรับว่าเครียดมาก โดยเล่าว่า ตนเองเป็นเด็กจับเรือ หรือ หาเรือสปีดโบ๊ทข้ามฟาก ให้กับนักท่องเที่ยว ได้ปวดท้องหนัก แล้วก็ให้เขาขับเรือออกไปนอกกลางทะเล ก็ไม่ทราบวาจะเป็นข่าวแบบนี้  แต่ในครั้งนี้ยอมรับว่าเป็นการกระทำที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ พร้อมทั้งขออภัยในสิ่งที่ทำลงไป และสัญญาว่าจะไม่ทำแบบนี้อีก