เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2567 พล.ต.ท.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผบช.ทท..พล.ต.ต.พงษ์สยาม มีขันทอง รอง ผบช.ทท., พล.ต.ต.ต.สันธิกร วรวรวรรณ ผบก.ทท.1,พ.อ.ศราวุธ ตันกุล, พ.ต.อ.ปียรัช สุภารัตน์ ผบก.ทท.1, พ.ต.อ.แมน รถทอง ผกก.2 บก.ทท.1, พิชญะ เขียว เปลื้อง รอง ผกก.2 บก.ทท.1 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน กก.2 บก.ทท.1 ทำการสืบสวนจับกุบกุมผู้ต้องหาตามหมายจับค้างเก่าและเป็นคดีที่น่าสนใจซึ่งส่งผลต่อ ความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของนักท่องเที่ยวและประชาชนนั้น โดยจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสมุทรปราการ ที่ 332/2564 ลงวันที่ 19 ก.ค. 64 ตามข้อกล่าวหา “ร่วมกันฉ้อโกงโดยการแสดงตนเป็นคนอื่นและโดยทุจริตหรือโดยการหลอกลวง ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเป็นเท็จโดยประการที่น้าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน”
โดยสืบเนื่องมาจาก เมื่อวันที่ 19 ก.ค.2564 น.ส.เสาวณีย์ (นามสมติ) อายุ 37 ปี ชาวจังหวัดสมุทรปราการ ได้รับความเสียหายถูกกลุ่มคนร้ายอ้างเป็นชาวต่างชาติใช้เฟสบุ๊คชื่อ “Peter Wong” เข้ามาขอเป็นเพื่อน ต่อมาได้ ติดต่อกันผ่านทางแชทจนกระทั่งชายที่อ้างตัวในเฟซบุ๊กดังกล่าวก็ได้เสนอว่าจะส่งพัสดุของมีค่ามาให้ เพื่อแสดงความสัมพันธ์ที่มีต่อกัน
ต่อมาได้มีบุคคลอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ศุลกากรติดต่อมา แจ้งว่ามีสินค้าเป็นพัสดุส่งมาและภายในเป็นของมีมูลค่าสูง ผู้เสียหายจะต้องชำระค่าปรับภาษีศุลกากรก่อนนำขององออก ผู้เสียหายจึงหลงเชื่อและโอนเงินไปเข้าบัญชีคนร้ายจำนวน 2 ครั้ง คือ โอนครั้งที่ 1 เข้าบัญชีธนาคารทหารไทย เป็นเงินจำนวน 132,000 บาท และ ครั้งที่ 2 โอนเข้าบัญชีธนาคารกรุงไทย เป็นเงินจำนวน 350,000 บาท ซึ่งรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 482,000 บาท แต่ภายหลังไม่สามารถติดต่อกับบุคคลในเฟซบุ๊ก และบุคคลที่อ้างเป็นเจ้าหน้าที่ศุลกากรได้แต่ จึงเชื่อว่าตนเองน่าจะถูกหลอกจึงได้เดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.สำโรงเหนือ ภ.จว.สมุทรปราการ
นอกจากนี้ผู้ต้องหารายนี้ยังมีหมายจับในลักษณะเดียวกัน คือหมายจับศาลจังหวัดนครพนมที่ จ.56/2565 ลงวันที่19 เม.ย.65 พื้นที่ สภ.เมืองนครพนม ความเสียหาย 417,000 บาท และหมายจับศาลแขวงเชียงรายที่ จ.92/2562 ลงวันที่ 13 ธ.ค.62 พื้นที่ สภ.แม่สาย รวมเสียหาย 435,000 บาทรวมความเสียหายทั้งสิ้น 1,334,000 บาท
ภายหลังสืบสวน กก.2 บก.ทท.1 ได้ทำการสืบสวนติดตามจับกับกุมจนกระทั่งสืบทราบว่าผู้ต้องหาคือน.ส.พัชรี (ขอสงวนนามสกุล)อายุ 44 ปี มีสามีเป็นคนต่างชาติ (คนผิวสี) ได้มาพักอาศัยอยู่ที่ คอนโดย่านช่องนนทรี เขตยานาวา กรุงเทพฯ จึงได้ทำการจับกุมตัวไว้ได้ ในเบื้องต้นผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธ แต่รับว่าเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับจริง จึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจขอแจ้งเตือนประชาสัมพันธ์ไปยังพี่น้อง ประชาชนหรือนักท่องเที่ยว โปรดใช้ความระมัดระวังในการใช้บริการแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์หาคู่ออนไลน์ นอกจากจะทำให้เสียใจแล้ว ยังอาจทำให้เสียทรัพย์สินอีกด้วย และขอให้ใช้สื่อออนไลน์ต้องรู้เท่าทันมิจฉาชีพ ซึ่งมาในรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป ไม่ควรเปิดเผยข้อมูลส่วนตัว และไม่โอนเงินให้กับบุคคลที่ใม่รู้จักโดยเด็ดขาด