จากกรณีมีผู้ใช้บัญชีเฟสบุ๊ครายหนึ่งได้โพสต์ถึงคลิปสั้นออกเตือนภัยเกี่ยวกับแบงค์ปลอมพร้อมแคปชั่นและติดแฮชแท็ค “#แบงค์ปลอม ที่ไม่ใช่การโม่แต่คือ A4“ โดยในคลิปดังกล่าว เจ้าของโพสต์ได้นำแบงค์ปลอมที่ได้มาเปรียบเทียบกับแบงค์จริงเพื่อให้เห็นภาพอย่างชัดเจน พร้อมบอกให้ผู้มาเห็นโพสต์หรือเพื่อนร่วมอาชีพระมัดระวังเป็นพิเศษ
ล่าสุด 20 ม.ค. 68 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบกับเจ้าของโพสต์ดังกล่าว คือ น.ส.คัชรินทร์ แสนเงิน พร้อมด้วยแฟนหนุ่มคือนายเจษฎากร บุญประกอบ อายุ 25 ปี หรือคิว สองคนเจ้าของร้านขายเสื้อผ้าที่ตกเป็นเหยื่อแบงก์ปลอม
โดยเล่าให้ฟังว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงวันเสาร์ ขณะมาตั้งร้านขายของอยู่ที่ตลาดแห่งหนึ่งเทพประสิทธิ์ พัทยาใต้ ตั้งแต่ช่วง 5 โมงเย็น จนถึงเกือบ 4 ทุ่ม จากนั้นได้มีลูกค้ารายหนึ่งเดินเข้ามาเลือกซื้อ แล้วจ่ายด้วยธนบัตร 500 บาท ซึ่งเป็นของปลอม โดยในช่วงที่รับแบงก์จำไม่ได้ว่าช่วงเวลาประมาณไหน ซึ่งวันนั้นเองก็เป็นวันที่ลูกค้าเข้ามาที่ร้านเยอะและชุลมุนพอสมควร
ในขณะที่ขายของจนเก็บร้านก็ไม่ได้รู้ว่ามีแบงก์ปลอมติดมาด้วยมารู้ตัวอีกที ช่วงที่นับเงินรายได้เสร็จเรียบร้อยและไปฝากใส่ตู้เงินฝาก โดยที่เครื่องก็ไม่ได้รับธนบัตรใบนั้นที่พยายามใส่ไปหลายรอบ จากนั้นได้รู้สึกผิดสังเกตุและลองนำมาเปรียบเทียบกับธนบัตรใบอื่นๆ จนได้รู้ว่าเป็นของปลอมวัสดุกระดาษ จึงให้แฟนสาวออกมาโพสต์เตือนภัย
ทั้งนี้ นายเจษฎากร ได้หยิบธนบัตรของจริง พร้อมด้วยธนบัตรปลอมมาเปรียบเทียบอีกครั้ง เพื่อความชัดเจนถึงจุดแตกต่างแต่ตนเองได้พบเจอ พร้อมทั้งเผยว่าตนเองก็รู้สึกเสียใจไม่คิดว่าจะเจอแบบนี้ รอบนี้เหมือนกับตนเองเสียมูลค่าของที่ตนเองขายไปกว่า 300 บาท
อย่างไรก็ดี จึงอยากฝากไปถึงพ่อค้าแม่ค้าด้วยกัน ให้ควรระมัดระวังตรวจเช็คธนบัตรทุกครั้ง และได้ฝากไปถึงมิจฉาชีพที่ก่อเหตุว่าไม่ควรทำแบบนี้เพราะไม่ว่าใครๆ ก็ลำบากถ้าได้เจอ แต่ทั้งนี้ทาง นายเจษฎากร พร้อมแฟนสาวก็ยังรู้สึกว่าโชคดีที่ตนเองนั้นไม่ได้เอาธนบัตรปลอมใบนั้นไปทอนให้ลูกค้าคนอื่นต่อ.