หน้าแรก ข่าวประชาสัมพันธ์ โซเชียลกระหึ่ม..โวย รพ.รัฐ เรียก 15,000 ค่าขนศพผู้ป่วยโควิดไปวัดระบุทำเป็นขบวนการ ญาติเผยทั้งน้ำตาเหมือนเป็นการซ้ำเติมเพราะหมดปัญญาจ่าย จำต้องขอความช่วยเหลือมูลนิธิฯส่งศพฟรีแทน

โซเชียลกระหึ่ม..โวย รพ.รัฐ เรียก 15,000 ค่าขนศพผู้ป่วยโควิดไปวัดระบุทำเป็นขบวนการ ญาติเผยทั้งน้ำตาเหมือนเป็นการซ้ำเติมเพราะหมดปัญญาจ่าย จำต้องขอความช่วยเหลือมูลนิธิฯส่งศพฟรีแทน

1144
0
แบ่งปัน

มีรายงานว่าในโลกโซเชียลเน๊ตเวิร์คมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมาก หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คชื่อ Wan wanuth Chanika ได้โพสต์ข้อความระบุ “เพื่อในเฟสใคร ใครเป็นนักข่าว สนใจขบวนการหากินกับศพผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ทักมาค่ะ พร้อมหลักฐาน รพ.หนึ่งในจังหวัดชลบุรี เรียกค่าทำศพ เคลื่อนย้ายศพจาก รพ.ไปเผาที่วัด 15,000 บาท ทำเป็นขบวนการร่วมกับสัปเหร่อ จะเรียกเพิ่มอีก 7,500 บาท ข่าวสำนักไหนอยากได้คลิปไปทำข่าว ทักส่วนตัวมาค่ะ” โดยพบว่ามีประชาชนเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก
ล่าสุดเวลา 13.00 น.วันนี้ (14 ก.ค. 64) ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยัง รพ.บางละมุง จ.ชลบุรี เพื่อเข้าพบกับนางณัฐชา แก้วหอมคำ อายุ 51 ปี พร้อมกลุ่มเครือญาติที่กำลังรอการเคลื่อนย้ายศพนางปัน แก้วหอมคำ อายุ 78 ปี มารดาที่เสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด-19 ออกจาก รพ.เพื่อไปประกอบพิธีทางศาสนา


โดยนางณัฐชา พูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่าก่อนหน้านี้พี่สาวติดเชื้อโควิด-19 จึงนำตัวส่งเข้ารักษาที่ รพ.บางพลี ขณะที่คนในบ้านก็ได้เร่งไปตรวจหาเชื้อจนพบว่าติดเชื้อเพิ่มอีก 3 คนคือตนเอง บุตรสาว และมารดา จึงเข้าไปทำการรักษาและกักตัวเช่นเดียวกัน กระทั่งต่อมาพี่สาวเสียชีวิต ส่วนตนเองและบุตรสาวรักษาจนหายและกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ ส่วนนางปัน มารดาอาการทรุดหนัก ประกอบกับช่วงเวลานั้นที่ รพ.บางพลี มีปัญ หาผู้ป่วยติดเชื้อเป็นจำนวนมาก ทาง รพ.จึง Transfer มารับการบำบัดที่ รพ.บางละมุง โดยแจ้งว่าที่นี่มีอุปกรณ์เครื่องช่วยหายใจที่ดีกว่า แต่ปรากฏว่ารักษาตัวประมาณ 20 วันมารดาก็เสียชีวิต


นางณัฐชา กล่าวต่อไปว่าต้องเดินทางมาจากบ้านเพื่อมาแจ้งการเสียชีวิตและเคลื่อนย้ายศพไปฌาปน กิจตามประเพณี จากนั้นจึงกลับมาแจ้งทางเจ้าหน้าที่ของ รพ. ก็ได้รับแจ้งว่าการเคลื่อนศพไปวัดจะมีค่าใช้จ่ายเป็นเงิน 15,000 บาท โดยทาง รพ.จะติดต่อรถมารับพร้อมคนขนศพให้เพราะทาง รพ.ไม่มีรถขนศพเอง ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วทำงานอาชีพเป็นพนักงานในห้างฯ ที่ต้องเลิกงานในเวลาใหม่ที่รัฐกำหนดทำให้ไม่มีโอที ถูกหักเงิน เดือน ค่าใช้จ่ายในครอบครัวก็มาก จึงไม่เข้าใจว่าทำไมการเคลื่อนย้ายศพจึงมีค่าใช้จ่ายที่สูงขนาดนี้จนทำให้ไม่มีปัญญาจ่าย ที่สำคัญเป็นผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ทำไมรัฐจึงไม่เข้ามาดูแลให้การช่วยเหลือในภาวะเศรษฐ กิจที่ย่ำแย่ขนาดนี้ ทำให้รู้สึกเสียใจและมองว่าเป็นการซ้ำเติมกันหรือไม่ เหมือน “นี่เป็นการกินคนตาย” ที่คนเป็นก็คงต้องตายตามไปด้วย
สุดท้ายจึงประสานไปยังมูลนิธิธรรมรัศมีมณีรัตน์ หรือ กู้ภัยมังกร ที่ ต.อ่างศิลา อ.เมือง จ.ชลบุรี เพื่อขอความอนุเคราะห์ ก็ปรากฏว่าทางมูลนิธิฯสนับสนุนในการจัดรถขนศพและประสานทางวัดช่องลม ต.บางทราย อ.เมือง จ.ชลบุรี เพื่อฌาปานกิจศพให้ โดยทั้งขบวนการไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น ทำให้รู้สึกเบาใจและดีใจที่ได้นำศพมารดาออกจาก รพ.และไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาเพื่อส่งดวงวิญญาณสู่สัมปรายภพต่อไป….