จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ยังคงอยู่ในขั้นวิกฤติ มียอดผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นในแต่ละวัน ส่งผลให้โรงพยาบาลมีไม่เพียงพอเพื่อรองรับผู้ป่วย นอกเหนือจากการเตรียมความพร้อมระบบสาธารณสุขแล้ว “อาหารปลอดภัย” เป็นกองหนุนสำคัญให้เหล่านักรบเสื้อกาวน์ดูแลรักษาผู้ป่วยได้อย่างเต็มกำลัง บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ เป็นอีกหนึ่งองค์กรเอกชนที่สนับสนุนการดำเนินงานโรงพยาบาลสนามและโรงพยาบาลทั่วประเทศ ตามโครงการ “CPF ส่งอาหารจากใจ ร่วมต้านภัยโควิด-19”
ในวันนี้ 31 ส.ค.64 ที่ ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี นายณัฐฆัฏ แสนสุข ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการบมจ.ซีพีเอฟ (ประเทศไทย) ได้เดินทางมามอบอาหารสำเร็จรูป ซีพี ในโครงการ “CPF ส่งอาหารจากใจ ร่วมต้านภัย COVID-19” แก่บุคลากรทางการแพทย์ของ โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ จำนวน 400 แพ็ค โรงพยาบาลสัตหีบ กม.10 จำนวน 400 แพ็ค เพื่อเป็นกำลังใจแก่แพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ที่ดูแลคัดกรองผู้ป่วยโรคโควิด-19 โดยมี พลเรือตรี นพ.ชลธร สุวรรณกิตติ. ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ นายแพทย์ชีวิน ประพันธ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสัตหีบ กม.10. เป็นผู้รับมอบ
นายณัฐฆัฏ แสนสุข ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการบมจ.ซีพีเอฟ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ซีพีเอฟ ห่วงใยบุคลากรทางการแพทย์ทุกคนที่ทำงานท่ามกลางความเสี่ยง เสียสละอย่างมาก ช่วยกันปกป้องคนไทยให้รอดปลอดภัยจากโควิด-19 จึงส่งมอบอาหารเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระงาน และเป็นกำลังใจแก่ทีมแพทย์ พยาบาล อาสาสมัคร ตาม นโยบาย เครือซีพี-ซีพีเอฟ โดย นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโส ให้แต่ละธุรกิจร่วมสนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์ในการต่อสู้กับโควิด-19 ระลอกใหม่อย่างเต็มที่ ในส่วนของ ซีพีเอฟ ที่รับผิดชอบด้านอาหาร ขอให้มั่นใจได้ว่าอาหารที่ได้รับสะอาดปลอดภัย ช่วยเสริมพลังกายและแรงใจให้ทุกคนทำหน้าที่ได้อย่างเข้มแข็ง
พลเรือตรี นพ.ชลธร สุวรรณกิตติ. ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ กล่าวว่า ขอขอบคุณ ซีพีเอฟ ที่นำอาหารมาช่วยสนับสนุนการทำงานของแพทย์ เป็นการสร้างขวัญกำลังใจ ช่วยให้บุคลากรทางการแพทย์มีอาหารรับประทานอย่างสะดวกสบาย มีเวลาปฏิบัติหน้าที่ดูแลผู้ติดเชื้อได้อย่างเต็มที่
นายแพทย์ชีวิน ประพันธ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสัตหีบ กม.10. เปิดเผยว่า ขอขอบคุณซีพีเอฟที่สนับสนุนอาหารพร้อมทานแก่บุคลากรของโรงพยาบาล ให้มีอาหารปลอดภัยบริโภคอย่างเพียงพอ และยังช่วยลดภาระการจัดเตรียมอาหาร ทำให้สามารถทุ่มเทเวลาในการดูแลรักษาผู้ป่วยอย่างเต็มที่ นับเป็นการเสริมสร้างกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ของบุคลากรทุกคน เพื่อต่อสู้กับสถานการณ์อันยากลำบากนี้