นายดำรงเกียรติ พินิจการ เลขานุการ สมาคมอุตสาหกรรมบันเทิงและการท่องเที่ยวเมืองพัทยาได้พูดถึงเรื่องถึงนโยบายการเปิดปิดสถานบริการจาก 02.00 มาเป็น 04.00 น. โดยในส่วนที่เป็นตัวแทนสมาคมและเป็นผู้ประกอบการซึ่งตนก็เห็นด้วยกับการขยายเวลาในการปิดสถานบริการเพิ่มขึ้น ซึ่งยังไงก็น่าจะมีการกำหนดโซนนิ่ง ต้องมีการควบคุมดูแล ในการที่จะควบคุมว่าสถานการณ์ไหนที่จะปิดเวลาไหนเปิดเวลาอะไร ถ้าเกิดเมืองประเทศไทยมีการแบ่งโซนนิ่งหรือเมืองท่องเที่ยวนะ เช่นอาจจะเป็น พัทยา ภูเก็ต เชียงใหม่ คืออะไรที่เป็นเมืองที่น่าเที่ยวเข้ามาเที่ยวกรุงเทพฯแต่เราก็ขีดเส้นขยายเวลาในส่วนที่เป็นเมืองท่องเที่ยวให้เขาบอกว่าน่าจะเป็นสิ่งที่นำเม็ดเงินเข้ามาให้สู่ธุรกิจภาคกลางคืนได้เยอะขึ้น เงินก็จะได้เข้ามาหมุนเวียนในธุรกิจกลางคืนแล้วก็นักท่องเที่ยวที่มาใช้จ่ายเงินได้เยอะเพิ่มขึ้นไป ถ้าเกิดเมืองพัทยาได้สามารถขยายเวลาปิดบริการจาก 02.00 น. ได้ผมมองว่าจะได้ผลที่ดีต่อนักท่องเที่ยวแล้วก็ผูกพันมากขึ้นนะครับ เราจะมากลัวเยาวชนหรือนักเรียนนักศึกษาที่จะมาเที่ยวกันคืออะไรผมมองว่าคนส่วนน้อยมากๆเพราะว่านักเมืองพัทยาเราเองไม่ได้มีมหาวิทยาลัยนะครับตอนนี้ก็จะเป็นเรื่องของอายุถ้าเกิดอย่างพวกนักเรียนชั้นมัธยมต้นมัธยมปลายโรงเรียนเลยพูดได้เลยเพราะว่าในเรื่องของอายุที่จะเข้ามาเพราะว่าต้องอายุ 20 ปีขึ้นไปทีนี้พอไม่มีมหาวิทยาลัยอยู่ในเขตเมืองพัทยาผมก็มองว่าตลาดธุรกิจประเภทกลางคืนจะไม่ส่งผลต่อที่ว่า ทุกภาคส่วนหรือทางสังคมที่เป็นห่วงว่าจะทำให้เด็กเยาวชนเข้าไปเที่ยว
ผมว่าเมืองพัทยาสามารถเป็นพื้นที่นำร่องที่จะลองทดสอบขยายเวลา แบ่งประเภทธุรกิจหรือของเรื่องเวลาปิดในตรงส่วนนี้ ซึ่งเรื่องนี้ทางสมาคมจะมีการพูดคุยกันแล้วเคยเสนอแนะนำไปนานมากแล้วนะครับอย่างเช่นถ้าเกิดคุณขออนุญาตประเภทนี้คือประเภทร้านอาหารไม่ใช่เป็นสถานบันเทิง ปิดเที่ยงคืนก็เสียภาษีแค่ระดับหนึ่งขอเป็นมาตรา 34 ขอเป็นสถานบริการปิด 02:00 น คุณก็เสียภาษีสูงขึ้นมาหน่อยแต่ถ้าคุณจะขอขยายเลทเวลาปลุกเป็น 04:00 น คุณก็ควรเสียภาษีมากขึ้น คืนให้กับสังคม ซึ่งน่าจะเป็นส่งผลดีกับกับเมืองกับเทศบาลหรือท้องถิ่นที่สามารถดึงเงินคืนนี้เข้ามาพัฒนาตัวเมืองพัทยาได้อีกตัวนึงนะครับแล้วก็ผมมองว่าถ้าเกิดกรณีที่ได้จะทำให้ธุรกิจแล้วก็เม็ดเงินในการท่องเที่ยวพัทยาเพิ่มขึ้น
นิราช ทิพย์ศรี /นันทพล ทิพย์ศรี อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี 0909535645,0945565622/086-3684323
