หน้าแรก ข่าวประชาสัมพันธ์ รวบจอมโจรเฒ่าตระเวนวิ่งราวทรัพย์นักท่องเที่ยวประวัติสุดอึ้งก่อคดีมาโชกโชน

รวบจอมโจรเฒ่าตระเวนวิ่งราวทรัพย์นักท่องเที่ยวประวัติสุดอึ้งก่อคดีมาโชกโชน

190
0
แบ่งปัน

        เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 27 ก.พ. พล.ต.ต.กัมพล ลีลาประภาภรณ์ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พร้อมด้วย พ.ต.อ.นาวิน สินธุรัตน์ ผกก.สภ.บางละมุง และ พ.ต.ท.กรณ์พงษ์ สุขวิสิฏฐ์ รอง ผกก.สส.ฯ ได้นำกำลังชุดสืบสวน ร่วมกันจับกุมตัว นายรุ่งโรจน์  สังกะสินสู่ อายุ 54 ปี ชาวบ้านบึง จ.ชลบุรี ผู้ต้องหาคดีวิ่งราวทรัพย์ พร้อมด้วยของกลาง รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ยามาฮ่า สีแดง-ดำ ทะเบียน 3 กถ 7333 ชลบุรี เสื้อผ้าที่สวมใส่วันก่อเหตุ และโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่ซอย 14 นาเกลือ ม.5 อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

         พล.ต.ต.กัมพล ผบก.ภ.จว.ชลบุรี กล่าวว่า การจับกุมสืบเนื่องจาก ช่วงเช้า เวลา 08.30 น. วันที่ 23 ก.พ.ที่ผ่านมา เกิดเหตุคนร้ายก่อเหตุกระชากกระเป๋า นางสาวนาตาเลีย วีโนกุธ หรือ Mrs.natalai vinokur อายุ 59 ปี นักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย เหตุเกิดที่ ซอย 14 นาเกลือ ตัดซอยนาเกลือ 16 ได้ทรัพย์สินไปจำนวนหลายรายการ ชุดสืบสวนจึงลงพื้นที่หาเบาะแสเกี่ยวกับคนร้ายทันที จากการสืบสวนทราบว่า คนร้าย คือ นายรุ่งโรจน์ ก่อนจะนำกำลังไปจับกุมตัวคนร้าย ได้ที่บ้านพักหลังหนึ่งในพื้นที่ ต.บ้านบึง จ.ชลบุรี ตรวจค้นพบของกลาง รถจยย.ที่ใช้ก่อเหตุ และหลักฐานเป็นเสื้อผ้าที่สวมใส่ขณะก่อเหตุ รวมถึงโทรศัพท์มือถือผู้เสียหาย ส่วนสาเหตุที่สามารถติดตามจับกุมได้อย่างรวดเร็ว เพราะคนร้ายชะล่าใจ ไปจอดติดแผ่นป้ายทะเบียนหลังก่อเหตุกระชากกระเป๋านักท่องเที่ยว ที่อู่ซ่อมรถจักรยานยนต์แห่งหนึ่งภายในซอยหนองใหญ่ ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โดยกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพไว้ได้ จนเป็นที่มาของการจับกุมในครั้งนี้

           จากการตรวจสอบประวัติ นายรุ่งโรจน์ ถือเป็นจอมโจรเฒ่า เคยก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ในพื้นที่เมืองพัทยา และใกล้เคียง มาหลายครั้งและเคยถูกตำรวจจับกุมมาแล้วถึง 19 ครั้ง ในช่วงปี พ.ศ. 2557-2558  โดยศาลได้ตัดสินจำคุก 19 ปี 10 เดือน ก่อนจะได้รับการอภัยโทษออกจากเรือนจำ เมื่อปี 2563 ( ติดคุกได้เพียง 5 ปี 7 เดือน ) พอพ้นโทษออกมาก็มาก่อเหตุซ้ำอีก โดยรับสารภาพว่าหลังพ้นโทษออกมาก็มาก่อเหตุอีก 5 ครั้ง  โดยผู้สื่อข่าวได้ที่โอกาสสัมภาษณ์ นายรุ่งโรจน์ ขณะถูกนำตัวไปสอบสวน เจ้าตัวได้ยกมือไหว้ขอโทษสังคม พร้อมทั้งบอกว่า เรื่องนี้ ตนทำเพียงคนเดียว ลูกและเมีย ครอบครัวไม่รู้เรื่อง ส่วนสาเหตุที่ทำไป เพราะต้องหาหาเงินไปใช้หนี้ อีกทั้งตัวเองไม่มีอาชีพเป็นหลักเป็นแหล่ง