หน้าแรก Uncategorized ตำรวจพัทยาใช้เวลาไม่ถึง 24 ชม  ตามรวบ 2 โจ๋วิ่งราวทรัพย์ชาวรัสเซีย

ตำรวจพัทยาใช้เวลาไม่ถึง 24 ชม  ตามรวบ 2 โจ๋วิ่งราวทรัพย์ชาวรัสเซีย

157
0
แบ่งปัน

  พล.ต.ต.สุรจิต ชิงนวรรณ์ รอง ผบช.ภ.2 พร้อมด้วย พล.ต.ต.กัมพล ลีลาประภาภรณ์ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี ได้แถลงข่าวผลงาน ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา นำโดย พ.ต.อ.ฐนพงศ์ โพธิ์ทิ ผกก.สภ.เมืองพัทยา หลังจาก พ.ต.ท.ชัยณรงค์ จิตต์สุนทร สว.สส.ฯ นำกำลังชุดสืบสวน ได้ติดตามจับกุมคนร้ายแก๊งวิ่งราวทรัพย์นักท่องเที่ยวทำลักษณ์เมืองพัทยาเสียหาย พร้อมด้วยผู้ต้องหา 2 คน ประกอบด้วย นายพิทักษ์ หรือฟรอยด์ ด้วงสวัสดิ์ อายุ 23 ปี และ นายพีรยุทธ หรือใหญ่ หลวงอินทร์ อายุ 22 ปี พร้อมของกลาง เป็นโทรศัพท์มือถือไอโฟน 11 สีชมพู 1 เครื่อง กระเป๋าสะพาย สีดำ 1 ใบ และรถจยย.ที่ใช้ก่อเหตุจำนวน 2 คัน โดยมี นางลาริซา อายุ 48 ปี ชาวรัสเซีย เป็นผู้เสียหายทั้งนี้ การจับกุมสืบเนื่องจาก ช่วงหัวค่ำของวันที่ 1 มี.ค. ที่ผ่านมา ศูนย์วิทยุ สภ.เมืองพัทยา รับแจ้งเหตุนักท่องเที่ยวถูกวิ่งราวทรัพย์ ที่บริเวณซอย 18/1 นาเกลือ ม.5 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จึงสั่งการฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบ

จุดเกิดเหตุพบ นางลาริซา ผู้เสียหาย ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่าขณะที่กำลังเดินเล่นกับสามีอยู่นั้น จู่ๆ ได้มีคนร้ายจำนวน 2 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์จำนวน 2 คัน โดยคันแรกเข้ามาประกบด้านข้างแล้วเอื้อมใช้มือกระชากกระเป๋าสะพาย สีดำ ภายในมีมือถือ ไอโฟน 11 สีชมพู 1 เครื่อง เงินสดจำนวน 3,000 บาท ก่อนพากันรีบขับรถจยย. หลบหนีไปในทิศทางเดียวกันทั้ง 2 คันต่อมา ฝ่ายสืบสวน จึงได้ทำการตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิด ตามเส้นทางที่หลบหนีทันที เพื่อหารูปพรรณสันฐานของคนร้าย ซึ่งพบว่า ผู้ก่อเหตุ ขับขี่รถจักรยานยนต์ มาจำนวน 2 คัน โดยคันแรก เป็นรถจยย. ยี่ห้อ ฮอนด้า คลิก สีแดง-ดำ มีชายวัยรุ่น สวมหมวกกันน็อค ใส่เสื้อคลุมแขนยาว สีเทา นุ่งกางเกงขายาว สีดำ รองเท้าแตะ ส่วนอีกคันเป็นรถจยย. ยี่ห้อ ฮอนด้า พีซีเอ็กซ์ สีทึบ ซึ่งผู้ขับขี่เป็นชายวัยรุ่น สวมหมวกกันน็อคสีดำ เสื้อแขนยาวสีดำด้านหลังมีลวดลาย สวมกางเกงขายาวสีดำ เมื่อได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตลอดระยะทางประมาณ 4.5 กม. ที่คนร้ายได้หลบหนี ปรากฏว่ามีความสอดคล้อง และเชื่อมโยงกันกระทั่งพบรถจักรยานยนต์ต้องสงสัย จอดอยู่ที่ บริษัทขนส่งเอกชน แห่งหนึ่ง ซ.สว่างฟ้า 3 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

ฝ่ายสืบสวนจึงได้วางกำลังดักซุ่มเพื่อจับคนร้าย จากนั้นเห็น นายพิทักษ์ ได้ขับขี่รถจยย.ที่ใช้ในการก่อเหตุมาจอด ตำรวจจึงแสดงตัวเข้าจับกุมทันที จากการตรวจค้นพบ โทรศัพท์มือถือของผู้เสียหาย ซุกซ่อนอยู่ใต้เบาะรถ จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน ส่วน นายพีรยุทธ ผู้ร่วมก่อเหตุ ตำรวจได้สืบสวนขยายผลตามไปจับกุมได้ที่บ้านพักหลังหนึ่งในพื้นที่พัทยา โดยยอมรับว่าลงมือก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์นักท่องเที่ยวจริง เพื่อต้องการนำเงินไปเที่ยวเตร่ เบื้องต้น จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา วิ่งราวทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การ กระทำความผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม

พล.ต.ต.สุรจิต รอง ผบช.ภ.2 กล่าวว่า คดีดังกล่าวเป็นคดีที่ผู้ต้องหาได้กระทำต่อผู้เสียหายซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ซึ่งเป็นการทำลายภาพลักษณ์การท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของประเทศไทยเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเมืองพัทยาซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลก ซึ่งต้องขอชื่นชมฝ่ายสืบสวน ที่สามารถแกะรอยจับกุมปิดคดีได้ในเวลาอันรวดเร็ว โดยตำรวจภูธรภาค 2 จึงขอประชาสัมพันธ์ในการรักษาความปลอดภัย และความสงบเรียบร้อยในพื้นที่เมืองพัทยา เพื่อสร้างความอุ่นใจแก่นักท่องเที่ยว พร้อมวิงวอนผู้ที่คิดจะกระทำผิดกฎหมายคิดไตร่ตรองให้ดี และขอรณรงค์การแสดงความเป็นเจ้าบ้านที่ดี.