เมื่อเวลา 12.00 น. ( 4 ก.ค.66 ) ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นายสันต์ชัย หอมชื่น อายุ 45 ปี ผู้ดูแลบ้านพัก เลขที่ 20/1 หมู่ 12 ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ว่าบ้านหลังดังกล่าว ถูกโจรแสบ 2 คน ยกรั้วประตูเหล็กกำแพงบ้านไปอย่างหน้าตาเฉยในช่วงกลางวันแสกๆ เหตุเกิดเมื่อช่วงบ่าย ของวันที่ 1 ก.ค.66 โดยกล้องวงจรปิด สามารถจับภาพคนขณะกำลังก่อเหตุไว้ได้
นายสันต์ชัย หอมชื่น เล่าว่า บ้านที่เกิดเหตุ ตนได้รับมอบหมายให้คอยดูแลบ้านพัก ซึ่งเป็นของน้องสาว แต่ปัจจุบันเจ้าตัวเดินทางไปอยู่กับสามีชาวต่างชาติ ที่ต่างประเทศ โดยวันเกิดเหตุ ตนอยู่ที่ร้านขายอาหารย่านนาเกลือ และ ได้เปิดดูกล้องวงจรปิดผ่านระบบโทรศัพท์มือถือ ก็พบว่าประตูรั้วเหล็ก ทางเข้า-ออก บ้าน ได้หายไป จึงรีบเดินทางมาตรวจสอบ ก็พบว่าประตูรั้วเหล็กหายไปทั้งแผง เมื่อดูกล้องย้อนหลัง ก็พบว่า มีโจร เป็นผู้ชาย 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์ ซาเล้งพ่วงข้าง มาจอดที่หน้ารั้ว แล้วทำที นำตลับเมตร มาวัดขนาดรั้วเหล็ก จากนั้นใช้ครีมตัดเหล็ก ตัดแม่กุญแจออก ก่อนจะช่วยกัน ยกประตูรั้วเหล็กไปทั้งแผง จำนวน 2 แผง น้ำหนักเกือบ 50 กก. ขึ้นรถจักรยานยนต์ซาเล้งพ่วงข้าง หลบหนีไปทันที จึงได้รีบเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.ห้วยใหญ่
อีกทั้ง บ้านหลังนี้ ก็เพิ่งจะถูกโจรมางัดประตูบ้าน เข้าไปรื้อค้นทรัพย์สิน ก่อนจะยกเค้าทรัพย์สิน และ ตัดสายไฟ ภายในบ้านไปจนหมดเกลี้ยง เหตุเกิด เมื่อต้นเดือน มิถุนายน ที่ผ่านมา ก่อนจะมาถูกก่อเหตุซ้ำสอง ภายในระยะเวลาไม่ถึง 1 เดือน โดยเชื่อว่า คนร้ายน่าจะเป็นกลุ่มเดียวกัน นอกจากนี้ น้องสาว เจ้าของบ้านที่อยู่ต่างประเทศ รู้สึกเครียดมาก ถึงขั้นตัดสินใจ ประกาศขายบ้านแล้ว เนื่องจากถูกก่อเหตุไป 2 รอบ สูญเสียทรัพย์สิน รวมมูลค่ากว่า 2 แสนบาท
ล่าสุดในวันนี้ มีความคืบหน้าของคดี โดย พ.ต.อ.สุรกิจ อินอ่ำ ผกก. พ.ต.ท.พรพรหม ม่วงบังยุง รอง.ผกก.สืบสวน และ ชุดสืบสวน สภ.ห้วยใหญ่ สามารถจับกุม คนร้ายที่ก่อเหตุรายนี้ได้แล้วทั้ง 2 คน พร้อมกับยึดของกลางเป็นแผงประตูรั้วเหล็ก 2 แผง หลังนำไปขายเป็นเศษเหล็ก ในราคาเพียง 380 บาท ทราบชื่อต่อมา คือ นายกมลชัย หรือต้อม สาน้อย อายุ 30 ปี ชาวจังหวัดเพชรบูรณ์ และ นายพงศ์พัฒน์ หรือท็อป เกิดพา อายุ 28 ปี ชาวจังหวัดกำแพงเพชร ทั้ง 2 คน มีอาชีพเป็นคนงานรับจ้างทั่วไป และ แรงงานก่อเหตุ ส่วนสาเหตุเบื้องต้น ให้รับสารภาพเพียงว่า “เงินไม่พอใช้” ตำรวจสอบสวนขยายผล แต่ทััง 2 คน ก็ยังยืนยันว่า เพิ่งก่อเหตุเป็นครั้งแรก แต่ตำรวจก็ยังไม่ปักใจเชื่อ อย่างไรก็ตามตำรวจได้ตัังข้อกล่าวหา ร่วมกันลักทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด หรือ พาทรัพย์สินนั้นไป ก่อนจะส่งตัวให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป …..