จากกรณีเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พบศพนายจีระพันธ์ จันทรส หรืออาร์ม อายุ 33 ปี ชาว จ.น่าน ใช้ผ้าขาวม้า ผูกคอเสียชีวิตอยู่ในป่าริมถนนหลวงแผ่นดินหมายเลข 331 พื้นที่ห้วยใหญ่ ซึ่งห่างจากจุดที่พบศพผู้หญิงถูกฆ่าหมกในร่องน้ำไหลข้างไร่มันสำปะหลัง ประมาณ 1 กิโลเมตร เมื่อวันที่ 2 ธ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งข้อสงสัยว่า อาจจะมีความเชื่อมโยงกัน ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดเมื่อเวลา 15.16 น.วันที่ 4 ธันวาคม 2566 พล.ต.ต.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พ.ต.อ.ชาตรี สุขศิริ รอง ผบก.จ.ชลบุรี,พ.ต.อ.สุรกิจ อินอ่ำ ผกก.สภ.ห้วยใหญ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวหลังประชุมว่า ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ทีมสืบสวน ได้อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าทั้งสองคดี สองศพมีความเชื่อมโยงกันหรือไม่ ต้องพิสูจน์ทราบตัวบุคคลว่าศพที่พบศพแรกนั้นเป็นใคร ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลว่าเป็นใคร ก็ต้องฝากประชาสัมพันธ์ หากผู้ใดรู้จักผู้หญิงอายุประมาณ 20-30 ปี ที่มีรอยสักที่ปรากฏนั้น หนือมีการแจ้งหายที่ใดไว้ สามารถเข้ามาให้ข้อมูลได้
ส่วนกุญแจสำคัญนั้นอยู่ระหว่างการตรวจสอบโทรศัพท์มือถือของนายจีระพันธ์ จันทรส หรืออาร์ม อายุ 33 ปี ที่ผูกคอตาย จนมาพบศพขึ้นอืดอยู่ในป่าเมื่อช่วงเช้านี้ แต่ด้วยโทรศัพท์แบตเตอร์รี่หมดมานาน ก็ต้องใช้เวลานิดนึง ส่วนความเชื่อมโยงนั้นก็มีความเป็นไปได้ แต่ก็ต้องรอผลตรวจจากเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานด้วย ซึ่งในขณะนี้ชุดทำงานทั้งหมดอยู่ในพื้นที่แล้ว เชื่อว่าน่าจะคลี่คลายคดีได้เพราะไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร
ด้าน นายนพรัตน์ นันทสุธา อายุ 44 ปี พ่อเลี้ยงของนายจีระพันธ์ ที่ผูกคอตาย เปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่าในเบื้องต้นยังไม่ปักใจเชื่อว่าศพหญิงสาวรายแรกที่พบจะเกี่ยวข้องกับลูกชาย และไม่เชื่อว่าลูกชายฆ่าตัวตาย จึงอยากให้ตำรวจช่วยสืบสวนและคลี่คลายคดีนี้ ส่วนลูกชายหายตัวไปตั้งแต่อาทิตย์ที่ 26 พ.ย. ก่อนที่ลูกชายจะหายตัวไป ได้เดินทางไปหาที่ห้องพัก แล้วไปจุดไฟเผาเอกสาร ภายในห้องพัก พร้อมกับร้องไห้ฟูมฟายโดยตนพยายามถามว่าเป็นอะไรแต่ลูกชายไม่ตอบ แต่พอแม่ไปถามทราบเพียงว่าลูกชายทะเลาะกับภรรยาเรื่องปัญหาภายในครอบครัวจากนั้นลูกชายก็หายตัวไปจนกระทั่งมาพบว่าผูกคอตายอยู่ในบริเวณดังกล่าว
นิราช ทิพย์ศรี /นันทพล ทิพย์ศรี อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี 0909535645,0945565622/086-3684323