เมื่อเวลา 16.30 น. ( 21 ธ.ค.66 ) ร.ต.อ.พุทธรักษ์ สอนคำหาร รอง.สว.สอบสวน สภ.เมืองพัทยา ได้รับแจ้งว่า มีเหตุมีคนถูกยิงเสียชีวิตในรถตู้ เหตุเกิด ลานจอดรถ คอนโดมิเนียม แห่งหนึ่ง ( วิวทะเล จอมเทียน คอนโดมิเนียม 5 ) ใกล้กับแยกแกรนด์คอนโด เทพประสิทธิ์ หมู่ 12 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมประสาน ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน 2 ชลบุรี และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์ฯ เมืองพัทยา รีบรุดไปทำการตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุ พบชาวบ้านและนักท่องเที่ยวมุงดูเหตุการณ์จำนวน เบื้องต้นพบรถตู้โตโยต้า สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน 1 นข 7288 กทม. ด้านหน้าติดสติกเกอร์ กรมการจัดหางาน โดยรถตู้ยังสตาร์ทเครื่องยนต์ไว้ตลอดเวลา ตรวจสอบ เบาะที่นั่งฝั่งคนขับ พบศพ นายณัฐพล ทุ่งสว่าง หรืออ็อด อายุ 46 ปี อายุ เป็นลูกจ้างเหมาในอัตราพนักงานขับรถ ของกรมการจัดหางาน จ.ชลบุรี สภาพศพนั่งก้มหน้า สวมเสื้อยืดคอปกสีดำ นุ่งกางเกงขายาวสีน้ำตาล มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม. เข้าขมับด้านขวา ทะลุท้ายทอยซ้ายเลือดทะลักไหลออกปากแล้วจมูก ที่ระหว่างขาผู้ตาย พบอาวุธปืนแบบออโตเมติก ยี่ห้อซิกเซาเออร์ รุ่น พี 365 จำนวน 1 กระบอก และ หัวกระสุนปืนขนาด 9 มม. ทะลุไปเบาะด้านหลังคนขับ และ ปลอกกระสุนปืนกระเด็นไปคาอยู่ที่บังแดดฝั่งคนขับ ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานจึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน พร้อมทั้งตรวจสอบเขม่าดินปืนรวมถึงลายนิ้วมือแฝง
นายวุฒิชัย รอดจร อายุ 50 ปี นักวิชาการแรงงานชำนาญการ กรมการจัดหางาน และ เป็นหัวหน้าของผู้ตาย เปิดเผยเบื้องต้น ก่อนเกิดเหตุพร้อมกับผู้ตายและพนักงานอีก 2 คน เดินทางจากสำนักงานในจังหวัดชลบุรี เพื่อมาตรวจสถานที่ทำงานบุคคลต่างด้าว ภายในคอนโดดังกล่าว เมื่อมาถึงคอนโด ผู้ตายได้จอดให้ตนและพนักงานอีก 2 คนลงจากรถ เพื่อไปปฏิบัติภาระกิจ จากนั้นผู้ตายก็ขับรถมาจอดบริเวณลานจอดรถด้านหน้าคอนโด จนเวลาผ่านไปประมาณ 15 นาที หลังทำการตรวจสอบเสร็จสิ้น เดินกลับมาที่รถเมื่อเปิดประตูด้านข้าง ก็ถึงกับช็อก เมื่อพบว่าผู้ตาย อยู่ในสภาพนั่งก้มหน้า เลือดไหลออกจมูก ตอนแรกคิดว่าเป็นลม พอเปิดประตูมาดูใกล้ๆ จึงรู้ว่าใช้อาวุธปืนยิงตัวเองจนเสียชีวิต
นายวุฒิชัย รอดจร ยังยอมรับว่า อาวุธปืนที่ใช้ในการก่อเหตุ เป็นของตน ซึ่งเก็บอยู่ในกระเป๋าสะพาย วางไว้บนเบาะด้านหลัง โดยคาดว่าคนตายแอบนำอาวุธปืนประจำกายของตนไปก่อเหตุ ส่วนปมเหตุไม่ทราบว่ามาจากอะไร เพราะตลอดทั้งวันที่อยู่กับผู้ตาย ไม่มีสัญญาณบอกเหตุ จนกระทั่งลูกน้องแอบนำอาวุธปืนคู่กายของตนไปก่อเหตุปลิดชีพตัวเอง อีกทั้งยังรู้สึกเสียใจอย่างมากเพราะผู้ตายเป็นคนอารมณ์ดีร่าเริง และเป็นที่รักของเพื่อนร่วมงาน และ ยังยอมรับกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นไม่ได้
นางสาวแขก นามสมมุติ อายุ 45 ปี ภรรยาของผู้ตาย ได้เดินทางมาดูศพสามี พร้อมกับให้การทั้งน้ำตาว่า ก่อนหน้าที่จะทราบว่าสามีเสียชีวิต ผู้ตายได้โทรศัพท์มาหา พร้อมทั้งถามว่า “ ทำอะไรอยู่ แล้วจะกลับบ้านกี่โมง ” ซึ่งตนเองก็ตอบคำถามตามปกติ และนัดหมายว่าเดี๋ยวกลับไปเจอกันที่บ้าน พอวางสายเสร็จ ทิ้งช่วงแค่ 7 นาที ก็ได้รับโทรศัพท์จากหัวหน้างานของสามี ว่า ผู้ตายเสียชีวิต โดยไม่ทราบว่าสาเหตุที่ยิงตัวตายในครั้งนี้ มาจากเรื่องอะไร เพราะสามีไม่มีสัญญาณบอกเหตุ และสามีไม่เคยบ่นเรื่องเครียดให้ฟัง จึงไม่ทราบว่ามาจากเรื่องอะไร
เบื้องต้นตำรวจตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่า รถตู้ของกรมการจัดหางาน ขับมาจอดบริเวณบริเวณหน้าคอนโด เวลาประมาณ 15.50 น. โดยคนขับ ปล่อยให้เจ้าหน้าที่เดินลงจากรถ 3 คน เข้าไปปฎิบัติภารกิจในคอนโด จนเวลาผ่านไปประมาณ 13 นาที เจ้าหน้าที่เดินกลับออกมา แล้วเดินไปยังรถตู้ ก่อนจะพบว่าผู้ตาย แอบนำอาวุธปืนของหัวหน้างาน มาใช้ก่อเหตุยิงตัวเองจนเสียชีวิต ส่วนสาเหตุยังไม่ทราบว่ามาจากเรื่องใด โดยตำรวจต้องทำการ สอบปากคำ คนใกล้ชิดอย่างละเอียดอีกครั้ง ส่วนศพจะมีการส่งผ่าชันสูตรศพ ที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อสรุปสาเหตุที่แท้จริงต่อไป….
