หน้าแรก ข่าวประชาสัมพันธ์ ผบ ตร ประชุมผู้บริหาร ตร เน้นผู้บังคับบัญชาทั่วประเทศทำความเข้าใจพ.ร.บ.อุ้มหายฯ อย่าอ้างไม่รู้ทำประชาชนเดือดร้อน

ผบ ตร ประชุมผู้บริหาร ตร เน้นผู้บังคับบัญชาทั่วประเทศทำความเข้าใจพ.ร.บ.อุ้มหายฯ อย่าอ้างไม่รู้ทำประชาชนเดือดร้อน

120
0
แบ่งปัน

วันนี้ (22 มกราคม) ที่การประชุมบริหาร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) ครั้งที่1/2567 (สัญจร) ณ.โรงแรม ฮิลตัน เมืองพัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โดยก่อนเริ่มประชุม  พล.ต.อ.ต่อศักดิ์  สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) มีการมอบรถบรรทุกน้ำ จำนวน 1 คัน ให้กับ สภ.ทัพไทย จ.สระแก้ว และ ร่วมชมงานโอทอปของคณะแม่บ้านตำรวจ และ มอบเข็มแม่นปืนกิตติมาศักดิ์ ให้กับ ผู้ช่วย.ผบ.ตร. รางวัลผลงานการกวาดล้างดีเด่นในช่วงเทศกาลให้กับ ตำรวจนครบาล อันดับ 1 , ตำรวจภูธรภาค 2 อันดับ 2 , ตำรวจภูธรภาค 4 อันดับ 3 ก่อนจะเปิดประชุมคณะผู้บริหาร สำนักงานงานตำรวจแห่งชาติ อย่างเป็นทางการ

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์  สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) กล่าวว่า วันนี้ประเด็นหลักในที่ประชุมฯ เน้นย้ำแนวทางการปฏิบัติตามพ.ร.บ.ตำรวจใหม่ปี 2565 และ พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ.2566 หรือ พ.ร.บ.อุ้มหายฯ

เพื่อสร้างความเข้าใจไปยังผู้ใต้บังคับบัญชาทุกนายว่าจากนี้การทำงานของตำรวจต้องทำงานภายใต้กฎหมาย มีแนวทางปฏิบัติต้องทำให้ถูกต้อง จะมาใช้ความรู้สึกเดิมไม่ได้ หรืออ้างว่าไม่รู้ข้อกฎหมายไม่ได้ เพราะจะทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน

ซึ่งการประชุมฯวันนี้ก็จะเป็นการประชุมรวมทั่วประเทศ เพื่อเน้นย้ำว่าการใช้ดุลยพินิจเป็นส่วนหนึ่งของแนวทางการสืบสวนสอบสวน แต่ยุคใหม่การสืบสวนต้องมาด้วยพยานหลักฐานที่ถูกต้อง รอบคอบ หากรวดเร็วเกินไปจะเกิดข้อผิดพลาด

ในส่วนของกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 จะมีการเน้นย้ำเรื่องพ.ร.บอุ้มหายฯ โดย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ระบุว่า กรณีนี้ต้องเอาพนักงานสอบสวนมาอบรมใหม่ ไม่ปล่อยให้เขาไปทำหน้าที่ตามยถากรรมต้องให้ความรู้กับข้าราชการตำรวจเรื่องนี้และไม่ใช่เฉพาะแค่ภาค 2 เท่านั้นแต่ต้องให้ทั้งประเทศปฏิบัติตามได้

ในส่วนเรื่องของเยาวชน ขอยืนยันว่าไม่ใช่ในเรื่องของการไม่ให้เยาวชนออกจากบ้านหลัง 4 ทุ่ม แต่เป็นการสั่งการให้ทุกภาค ทุกโรงพัก ในรอบ 1 เดือน ให้ระดมกวาดล้างกลุ่มเยาวชน ที่รวมกลุ่มตั้งตัวเองเป็นอาชญากรย่อมๆ แล้วออกไปตระเวนก่อเหตุอาชญากรรมต่างๆ พร้อมทั้งให้ชุดหน่วยปฏิบัติการพิเศษ ลงไปร่วมกับทุกโรงพัก ซึ่งในวันนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะเอาจริงเอาจังในเรื่องนี้

และในกรณีของ ปัญญา คงแสนคำ หรือ ลุงเปี๊ยก ที่ถูกบังคับรับสารภาพในคดีฆาตกรรมบัวผัน ตันสุ หรือป้ากบ ผบ.ตร. ระบุว่า กรณีนี้มีจเรตำรวจแห่งชาติเข้ามาทำหน้าที่สืบสวนข้อเท็จจริงด้วยไม่ได้สอบสวนแค่เฉพาะในภาค 2 เท่านั้น มีคำสั่งให้กระบวนการแล้วเสร็จภายใน 15 วัน หากมีมูลความผิด ลำดับขั้นต่อไปเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบวินัยร้ายแรง

มีรายงานว่าหากเข้าสู่ระเบียบการตรวจสอบวินัยฯ จะมีบทลงโทษคือ ปลดออก หรือ ไล่ออกจากราชการทันที

ในกรณีที่ตัวแทนจากสำนักงานอัยการพิจารณาว่าที่ตำรวจควบคุมตัวผู้ต้องหาไว้แล้ว อาจเข้าข่ายพ.ร.บ.อุ้มหายฯ แต่ตำรวจพิจารณาเบื้องต้นว่ายังไม่เข้าข่ายความผิดพ.ร.บ.ดังกล่าว พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า ส่วนนี้ต้องรอให้มีผู้เสียหายเป็นผู้แจ้งความร้องทุกข์ ทางลุงเปี๊ยกยังรักษาตัวอยู่ หากรวบรวมพยานหลักฐานแล้วก็เข้าสู่การดำเนินคดีต่อไปได้