ผู้สื่อข่าวเมืองพัทยา จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีมีคนรู้จักกันได้เก็บหิน หรือ แร่ สีดำ โดยแม่ได้เก็บไว้นานกว่า 40 ปีแล้ว โดยอยากให้ใครมาตรวจสอบ ซึ่งไม่ทราบว่าเป็นหินอุกกาบาต หรือ แร่ แต่ได้ทำการใช้ฆ้อนทุบหรือ เผา ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ จนนำมาไหว้ตามความเชื่อก่อนที่จะตกลงมาแตกเนื่องจากแมวปีนขึ้นไปหิ้งพระ แต่เมื่อแตกแล้วพบว่าเป็นหินใสใช้ไฟส่องจะมีแฉกๆ จึงอยากให้ใครนำไปตรวจสอบที
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านของ นางสาว พลายชื่น อินทร์ปัญญา 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 26/16 ม.4 ต.ตะเคียนเตี้ย อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โดย ทางด้าน น.ส.พลายชื่น ได้นำหินสีดำมาให้ทางผู้สื่อข่าวดูซึ่งพบว่าแตกออกเป็นชิ้นจำนวน 10 ชิ้น โดยได้แยกเก็บแยกใส่ถุงในหิ้งพระ
น.ส.พลายชื่น เล่าว่า หินดำ หรืออุกาบาตหรือแร่นี้ แม่เขาพบเจอที่ริมทางลูกรังแดงสมัยก่อนเมื่อ 40 ปีทีแล้วใกล้เทือกเขาเขตติดต่อเหมืองทองอัครา จ.เพชรบูรณ์ ตอนเจอมาก้อนเท่ากำปั้น พอได้มาแกก็นำมาวางใส่พานบูชาอยู่บนหิ้งพระอยู่หลายปี ซึ่งหินจะเป็นก้อนดำทึบไม่สามารถส่องดูได้ จนตนได้นำหินดังกล่าวไปที่ตลาดพลอยจันทบุรี ผู้ค้าอัญมณีตรวจสอบด้วยตาเปล่าเขาแค่บอกว่ามันน่าจะเป็นวัตถุที่มาจากนอกโลกซึ่งถูกความร้อนหลอมละลายอย่างรวดเร็ว หรือไม่ก็เป็นแร่ที่เกิดจากภูเขาไฟระเบิดและเกิดการเผาไหม้และหลอมละลายจนเกิดผลึกแก้ว พร้อมขอซื้อต่อแต่ตอนนั้นตนก็ไม่ได้ขายเพราะไม่รู้ว่ามีมูลค่าขนาดไหน
จากนั้นก็นำมาวางไว้ที่หิ้งพระจนแมวที่บ้าน วิ่งชนหิ้งพระจนทำให้หินก้อนนี้ตกลงกระทบกับพื้นบ้านจนเสียงดังสนั่นไปทั่วบริเวณบ้าน และวัตถุนี้ก็แตกออกจากกันเป็นเสี่ยงๆดั่งในรูป จากนั้นก็นำวัตถุนี้มาทดสอบหลายอย่าง ด้วยการนำเอาแม่เหล็กมาแนบกับวัตถุปรากฏว่าดูดไม่ติด ก็เลยตัดเรื่องของแร่เหล็กทิ้งไป จากนั้นก็นำไปต้มและเผาไฟปรากฎว่าวัตถุชื้นนี้ยังคงสภาพเดิมไม่มีการหลอมละลายแต่อย่างใด จากนั้นนำวัตถุนี้มาส่องกับพระอาทิตย์ปรากฏว่ามันเกิดแสงเหมือนสีรุ้งบ้างสีทองบ้างสีเงินบ้าง ก็เลยแปลกใจ ก็เลยอยากให้ผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบ ว่ามันคือหินหรือแร่ชนิดใดกันแน่