ในการประชุมสภาเมืองพัทยาที่ผ่านมา นายนิคม แสงแก้ว สมาชิกสภาเมืองพัทยา ได้กระทู้ถามสดกรณีร้านคาเฟ่บริเวณปลายประภาคาร แหลมบาลีฮาย ว่า อาคารดังกล่าวเป็นค่าเฟ่หรือของสุขา เนื่องจากในการประชุมสภาเมืองพัทยา สมัยสามัญ สมัยที่สาม ครั้งที่ 2 ที่มีเพื่อสมาชิกสภาเขต 4 ได้กระทู้ถามการดำเนินการของพื้นที่สาธารณะบริเวณปลายประภาคาร แหลมบาลีฮาย ที่มีการเปิดทำเป็นร้านคาเฟ่ และนายมาโนช หนองใหญ่ รองนายกเมืองพัทยา ได้ชี้แจงว่า พื้นที่ดังกล่าวเดิมเป็นห้องสุขาและจุดขายของของงานฝ่ายงานสวน สำนักสิ่งแวดล้อม และหลังที่มีการปิดให้บริการห้องสุขาแล้วจุดขายของไป หวั่นจะเป็นที่รกร้าง ฝ่ายงานสวนจึงได้มีการปิดประมูลอีกครั้ง โดยเมืองพัทยาได้มีการตั้งประมูลอยู่ที่ 20,000 บาท แต่มีผู้ยื่นซองประมูลถึง 54,000 บาท และผู้ยื่นประมูลสูงสุดจึงได้พื้นที่ไปดำเนินการในส่วนห้องสุขาที่มีพื้นที่กว้าง 30 ตารางเมตร ลึกลงไปจนถึงห้องสุขา ซึ่งจากภาพที่สมาชิกสภาเมืองพัทยานำมายืนยันก็เชื่อว่าผู้ประกอบการน่าจะทำผิดสัญญาจ้างจากทำห้องสุขาเป็นร้านอาหารคาเฟ่ ซึ่งล่าสุดยังพบว่าพื้นที่ดังกล่าวมีประชาชนนักท่องเที่ยวมาใช้บริการจำนวนมาก ราวเหมือนมีการจัดงานแต่งอะไร จึงอยากสอบถามว่าการดำเนินของผู้ประกอบการที่ยื่นซองประมูลไปได้นั้นดำเนินกิจการตามเงือนไขสัญญาหรือไม่อย่างไร
ด้านนายมาโมช หนองใหญ่ รองนายกเมืองพัทยา ได้ตอบกระทู้สมาชิกสภาเมืองพัทยา เขต 4 ว่า สำหรับพื้นที่บริเวณประภาคารนั้น อยู่ในความดูแลของงานสวน และต่อมาสวนดังกล่าวไม่มีคนดูแล เมืองพัทยาจึงได้มีการจัดประโยชน์ไปแล้วหนึ่งครั้งและมีผู้รับสัมปทานไปในราคา 20,000 บาท ซึ่งหลังได้มีการดูแลค้าขายพร้อมมีการใช้ซุ้มที่อยู่ในพื้นที่นั้นมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ในช่วงโควิด-19 ก็ได้มีการหยุดดำเนินกิจการไปและผู้ได้รับสัปทานได้คืนพื้นที่มาให้เมืองพัทยา และมีการปิดพื้นที่ดังกล่าวในช่วงการแพร่ระบาดโควิด-19 มา 3 ปี ต่อมาในช่วงหลังโควิดได้มีการจัดประกวดราคาอีกครั้งโดยตั้งราคาอยู่ที่ 20,000 บาท และมีผุ้ยื่นซองประมูลสูงสุดได้ในราคา 54,000 บาท
โดยในเงือนไขสัญญาได้ระบบไว้ว่าตัวอาคารที่มีอยุ่ ซึ่งเป็นตัวอาคารสำหรับขายสินค้าและมีห้องสุขาอยุ่ด้านหลังซึ่งจุดนี้เป็นส่วนประกอบ และมีส่วนประกอบอีกส่วนหนึ่งที่มีความกว้างของพื้นที่ซึ่งงานสวนมองว่าอาคารดังกล่าวเป็นอาคารขนาดเล็กและมีพื้นที่กว้าง 30 เมตร ลึก 8 เมตร ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวผู้ประมูลได้นำไปดูแลและห้ามก่อสร้าง ส่วนจะปรับปรุงโครงสร้างต่าง ๆ จะต้องปรับปรุงเฉพาะตัวอาคารที่มีอยู่เดิมคืออาคารห้องน้ำและจุดขายสินค้า ส่วนที่สมาชิกสภาพบเห็นอาจจะมีการเกินไปบ้าง หากพบมีการใช้พื้นที่เกิน 3 ครั้ง จะมีการยกเลิกสัญญาทันนี้ รวมถึงหากพบว่ามีการจำหน่ายเครื่องแอลเอสถือว่าผิดสัญญา หากสมาชิกและประชาชน นักท่องเที่ยวพบเห็นให้ถ่ายภาพเก็บหลักฐานส่งมาเมืองพัทยา เพื่อนำมาพิจารรายกเลิกสัญญากับผู้ประกอบการต่อไป สำหรับพื้นที่บริเวณประภาคาร แหลมบาลีฮาย ผู้ประกอบการได้มีการประมูลถูกต้องตามกฎหมายในราคา เดือนละ 54,000 บาท