จากกรณีเมื่อวันที่ 26 กันยายน 2567 โดยได้นำเสนอข่าวสารว่ามีการลักลอบจับสัตว์น้ำในอ่างเก็บน้ำวัดญาณสังวราราม ซึ่งเป็นเขตอภัยทานและมีป้ายประกาศห้ามจับ สัตว์น้ำหรือทำการประมง และภายในข่าวสาวสารดังกล่าวยังปรากฏเหตุการณ์มีเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหาร และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ตรวจตราป้องกันมิให้มีการจับสัตว์น้ำในอ่างเก็บน้ำ จึงได้พบกับกลุ่มคนจำนวนมากกำลังตกปลาอยู่ เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าไปสอบถามกับผู้ที่กำลังตกปลา ก็ได้ทราบจากผู้ที่กำลังตกปลาว่า มีผู้อนุญาตให้ตกปลาได้ แต่เจ้าหน้าที่ก็แจ้งว่าไม่สามารถตกปลาได้นั้น
ล่าสุดวันนี้ ( 8 ต.ค.67 ) นายวีกิจ มานะโรจน์กิจ นายอำเภอบางละมุง เป็นประธานประชุมปรึกษาหารือ กรณีการจับสัตว์น้ำในอ่างเก็บน้ำวัดญาณสังวรราราม โดยมี นายพีรวุฒิ บุญวัติ เลขานุการนายกเทศบาลตำบลเขาชีจรรย์ ตัวแทนเจ้าหน้าที่วิหารเซียน ตัวแทนเจ้าหน้าที่วัดญาณสังวรราราม เจ้าหน้าที่กรมชลประทานชลบุรี เจ้าหน้าที่ประมงอำเภอบางละมุง และกำนัน-ผู้ใหญ่ในพื้นที่ เข้าร่วมหารือแนวทางแก้ไขปัญหาดังกล่าว ณ ห้องประชุมบรรยายสรุป อำเภอบางละมุง
โดยในที่ประชุมได้มีการนำเสนอสภาพปัญหาที่เกิดขึ้นภายในอ่างเก็บน้ำวัดญาณ ซึ่งเป็นโครงการพระราชดำริในรัชการที่ 9 ซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการจัดสร้างโครงการอ่างเก็บน้ำวัดญญาณสังวราราม เพื่อ1.แก้ปัญหาภัยแล้งและอุทกภัยในพื้นที่ 2.เป็นแหล่งเก็บกักน้ำในการเพาะปลูก อุปโภคและบริโภคสำหรับคนในพื้นที่ 3.เป็นแหล่งแพร่พันธ์ปลาน้ำจืด 4.เป็นแหล่งท่องเที่ยวและ5.ส่งน้ำช่วยเหลือชลประทานในรอบวัดญาณ ทั้งนี้พื้นที่ดังกล่าวถือเป็นพื้นที่มีความอ่อนไหว้ด้วยมีประชาชนนำสัตว์น้ำมาปล่อย ตามความเชื่อ ทำให้มีสัตว์น้ำจำนวนมากอยู่ในอ่างเก็บน้ำวัดญาณและมีกลุ่มบุคคล ลักลอบเข้ามาจับสัตว์ที่ประชาชน นำมาปล่อยไว้ในอ่างเก็บน้ำวัดญาณ ทั้งการตกเบ็ด ซ็อตไฟ และนำไอ้โง่ มาจับปลาที่ประชาชนนำมาปล่อย ซึ่งมีพื้นที่ประมาณกว่า 400 ไร่ แม้จะมีป้ายของกรมประมงที่จัดทำขึ้นในช่วง พรบ. 2490 ที่ห้ามไม่ให้มีการจับสัตว์น้ำในอ่างเก็บน้ำดังกล่าวก็ตาม ซึ่งในที่ประชุมได้ให้ทุกภาคส่วนเสนอความคิดเห็นในการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรมและถาวร
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ประมงอำเภอบางละมุง ชี้แจงด้านข้อกฎหมายเกี่ยวกับการลักลอบจับสัตว์น้ำ ว่า กฎหมายประมงตาม พรกประมง มาตรา 60 มีโทษปรับตั้งแต่ 200,000 -1 ล้านบาท อีกทั้ง มาตรา 67 ห้ามใช้ไอโง่ ในการประมงในพื้นที่สาธารณะ หากฝ่าฝืนมีโทษปรับ 10,000-100,000 บาท หรือปรับ 5 เท่าของสัตว์น้ำ ซึ่งที่ผ่านมายังไม่สามารถจับตามความผิดซึ่งหน้า ทั้งนี้หากประชาชนหรือผู้พบเห็นมีคลิปสามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ประมงในพื้นในพื้นที่ได้ทันที เพื่อดำเนินการจับกุมมาดำเนินคดีต่อไป
ขณะที่นายพีรวุฒิ บุญวัติ เลขานุการนายกเทศบาลตำบลเขาชีจรรย์ กล่าวว่า สำหรับเขตการปกครองพื้นที่อ่างเก็บน้ำวัดญาณนั้นแบ่งการปกครองคนละครึ่งกับเทศบาลตำบลห้วยใหญ่ โดยพพื้นที่ส่วนในน้ำเกือบทั้งหมดของอ่างเก็บน้ำวัดญาณเป็นอำนาจหน้าที่ของเทศบาลเขาชีจรรย์ทั้งหมด ทั้งนี้กรมโยธาธิการและผังเมือง ได้จัดสรรค์งบประมาณผูกพัน 3 ปี วงเงิน 97 ล้านบาท ในการดำเนินโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์และพัฒนาพื้นที่บริเวณอ่างเก็บน้ำบ้านอำเภอ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในเขตพัฒนาEEC ซึ่งหากโครงการแล้วเสร็จจะมีประชาชนและนักท่องเที่ยวเข้ามาใช้บริการในพื้นที่เป้นจำนวนมาก อีกทั้งเทศบาลเข้าสชีจรรย์ก็จะส่งเจ้าหน้าที่เขาดูแลควบคุมการดำเนินการจังสัตว์น้ำในอ่างเก็บน้ำวัดญาณอีกทาง ซึ่งจะเป็นการแก้ปัญหาการลักลอบจับสัตว์น้ำในอ่างดังกล่าว
ด้านนายวีกิจ มานะโรจน์กิจ นายอำเภอบางละมุง ได้สรุปมติที่ประชุม ว่า ด้วยพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ละเอียดอ่อน มีคนมาปล่อยปลาก็ไม่อยากให้มีใครมาจับ ซึ่งในส่วนที่ข้อกฎหมายสามาถบังคับใช้ได้ ก็สามารถขึ้นป้ายประกาศได้อย่างชัดเจนในการห้ามช็อตไฟจับปลา และห้ามใช้ไอโง่จับปลา ซึ่งหากพบมีการฝ่าฝืนถูกดำเนินคดีตาม พรก.ประมง แต่ในส่วนที่มีประชาชนนำเบ็ดมาตกปลา ซึ่งในส่วนนี้กฎหมายเข้าไม่ถึงก็ต้องใช้การขอความร่วมมือ โดยให้เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องช่วยกันดูแลและขึ้นป้ายขอความร่วมมือเช่นกัน สำหรับข้อกังวลของประมงอำเภอบางละมุงเรื่องจำนวนสัตว์น้ำในอ่างนั้นให้ประมงลงพื้นที่ดำเนินการตามขั้นตอนและกำหนดระยเวลาในการดำเนินการ พร้อมทั้งให้แขวงการทางทำการปรับปรุงภูมิทัศน์พื้นที่รอบอ่างและถนนหลวงต่อไป ทั้งนี้เพื่อให้การดำเนินการแก้ไขปัญหาเห็นผลเป็นรูปธรรม ได้ทีการจัดตั้งคณะทำงานชุดเล็กติดตามการดำเนินการ
