จากกรณีที่มีผู้ขับรถสองแถวรับจ้างประจำทางสายสัตหีบ-พัทยา ไม่ทอนเงินค่าโดยสารคืนให้เด็กนักเรียนชายจนเป็นเหตุให้จะกระโดดสะพานลอยข้ามถนน และวิ่งให้รถชนเพื่อฆ่าตัวตาย จนไม่มีเงินติดที่จะไว้ทานอาหารกลางวัน และเป็นค่ารถกลับบ้านในตอนเลิกเรียน จนคิดจะฆ่าตัวตาย เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 14 ก.ย.ที่ผ่านมา
ล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา นายอนุชา อินทรศร นายอำเภอสัตหีบ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ปัญญา ดำเล็ก ผกก.สภ.สัตหีบ ได้สั่งการนายพิเชฐ ธรรมโหร ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคงอำเภอสัตหีบ พ.ต.ท.สุพรรณ ใจหาญ สว.สส.สภ.สัตหีบ พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ลงตรวจกล้องวงจรปิดตามถนนสุขุมวิท เพื่อตามหารถสองแถวประจำทางคัน ดังกล่าวที่ขับผ่าน พร้อมเข้าตรวจสอบหาข้อมูลประวัติของผู้ขับขี่รถสองแถวคิว สัตหีบ-นาเกลือ ที่คิวรถสองแถว ว่าเป็นคันไหน เบื้องต้นกล้องวงจรปิดบริเวณหน้าโรงเรียนไม่มี ซึ่งที่คิวรถก็ไม่มีคนขับท่านใดรับสารภาพ เจ้าหน้าที่จึงต้องไปตรวจสอบหากล้องวงจรปิด บริเวณเมืองพัทยาที่น้องขึ้นรถมาเรียนต่อไป
ล่าสุด พ.ต.อ.ปัญญา ดำเล็ก ผกก.สภ.สัตหีบ ได้เรียกพี่ชายของน้องคนดังกล่าวมาสอบถามข้อมูลเบื้องต้น ทราบว่าครอบครัวน้องนั้น พ่อแม่แยกทางกันไปนานแล้ว น้องจะพักอาศัยอยู่กับพี่ชายที่สัตหีบ แต่ตอนนี้น้องขอไปพักอาศัยอยู่กับป้าที่เมืองพัทยา โดยครอบครัวเราก็ไม่ได้ร่ำรวยแต่อย่างใด ผมทำงานรับจ้างรายวัน ผมก็จะส่งเงินน้องไปโรงเรียน พ่อและแม่ก็จะโอนเงินมาให้น้องไปเรียนบ้างตามกำลังที่จะส่งให้ไว ซึ่งตัวน้องนั้นป่วยเป็นโรคซึมเศร้า และมีความเครียดสะสมจากปัญหาครอบครัว และยังมาเจอคนขับรถโดยสารไม่ทอนเงินที่จะเอาไว้ใช้จ่ายในการกินข้าวกลางวัน และกลับบ้านพักที่พัทยา ทำให้เกิดความเครียด และน้อยใจกับสิ่งที่เกิดกับตัวเอง จึงได้คิดสั้นด้วยอารมณ์ชั่ววูบ และคิดจะฆ่าตัวตายดังกล่าว ซึ่งตอนนี้น้องปลอดภัยดี โดยป้าได้มารับตัว ที่ รพ.นำไปดูแลที่บ้านพักที่พัทยาแล้ว
พ.ต.อ.ปัญญา ดำเล็ก ผกก.สภ.สัตหีบ ยังกล่าวอีกว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ติดตามคนขับรถสอบแถวมาสอบสวนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพื่อให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่ายอย่างแน่นอน ซึ่งตอนนี้กำลังรวบรวมภาพจากกล้องวงจรปิดและข้อมูลคนขับรถสองแถวในช่วงเวลานั้น มาให้น้องยืนยันว่าเป็นใครเพื่อจะได้เรียกตัวมาพูดคุยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนตัวน้องนั้น นายอนุชา อินทรศร นายอำเภอสัตหีบ ได้มีการประสานไปยัง สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดชลบุรี (พม.ชลบุรี) เข้ามาดูแลตัวน้องและครอบครัว เพื่อแก้ไขกับปัญหาที่เกิดขึ้นในอนาคตต่อไป