เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 5 พ.ย.64 ที่บริเวณริมถนนโรงน้ำตาล-บ้านเขาไผ่ ม.10 ต.หนองอิรุณ อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี ได้มีชาวบ้านนำโดย น.ส.จุมพิตา สิงห์โตทอง กำนันต.หนองอิรุณ นายวิชาญ กังวานเลิศปัญญา ผู้ใหญ่บ้าน ม.10 นายธวัช ประดับศรี ผู้ใหญ่บ้าน ม.2 พร้อมชาวบ้านในพื้นที่ ม.1 ม.2 ม.4 ม.6 ม.8 ม.10 จำนวนกว่า 100 คน ได้มายืนอยู่ริมถนนบริเวณปากทางเข้าบริษัทแห่งหนึ่ง ซึ่งมีโครงการจะก่อสร้างโรงงานพลังงานไฟฟ้าแสงอาทิตย์ขนาดใหญ่ เนื้อที่ 169 ไร่ โฉนดที่ดิน 2 แปลง ที่จะสร้างโรงงานตั้งอยู่ในพื้นที่ ม.10 และ ม.2 ต.หนองอิรุณ อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี พบว่า บริเวณภายในพื้นที่ได้มี บริษัทฯ เคลื่อนย้ายเครื่องจักรกลหนัก อาทิ รถแบคโฮ 3 ตัว รถไถ รถบรรทุก 10 ล้อ จำนวน 6 คัน เข้ามาเตรียมการปรับพื้นที่ เพื่อจะก่อสร้างเป็นโรงงานผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์กว่า 1.4 กิโลวัตต์
นายวิชาญ กังวานเลิศดี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 10 กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ทาง บริษัทฯ ได้มีหนังสือมายังผู้ใหญ่บ้าน-กำนันในพื้นที่ ต.หนองอิรุณ อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี ให้ไปรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับ โครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ เมื่อวันที่ 9 มี.ค.64 หลังจากนั้น บริษัทฯ ได้เกณฑ์ชาวบ้านจาก พื้นที่ ม.1 ม.2 ม.4 ม.8 ม.10 หมู่บ้านละ 10 คน รวมแล้วประมาณ 50 คน ไปรับฟังความคิดเห็นที่ห้องประชุม ที่ว่าการอำเภอบ้านบึง ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ต.หนองอิรุณ ได้บอกว่าถ้าทำโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ก็น่าจะเป็นผลดีกับประชาชนไม่มีปัญหาอะไร แต่อย่างไรก็ตามทางโรงไฟฟ้าก็ควรจะสอบถามชาวบ้านที่อยู่บริเวณใกล้เคียงพื้นที่ก่อสร้างโรงงานก่อน เพราะแต่ละหมู่บ้านใน ต.หนองอิรุณ มีชาวบ้านอยู่อาศัยนับพันคน ต่อมาทาง บริษัทฯ ได้มาติดประกาศว่าทำประชาคมผ่านเรียบร้อยแล้ว ทั้งๆ ที่บริษัทฯ ยังไม่ได้บอกกับชาวบ้านเลยว่าจะทำอะไร ชาวบ้านหนองอิรุณ ไม่เคยรับรู้เรื่องอะไรของโรงไฟฟ้าเลย วันนี้ จึงมารวมตัวกันคัดค้าน เพราะทาง บริษัทฯ ได้ขนเครื่องจักรกลหนักเตรียมพร้อมมาทำงานในพื้นที่
ผู้ใหญ่ วิชาญ กล่าวต่ออีกว่า ก็อยากจะให้ทาง บริษัทฯ มาทำประชาคม มาชี้แจงสร้างความเข้าใจให้ชาวบ้านรับทราบ ผมในฐานะตัวแทนชาวบ้านและเป็นผู้ใหญ่บ้าน ม.10 ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงงาน
จึงได้มอบหนังสือคัดค้านการสร้างโรงงานแห่งนี้ให้ พ.อ.อ.วิโรจน์ สร้อยสกุล ปลัด อบต.หนองอิรุณ รักษาการนายก อบต.หนองอิรุณ ที่ได้ลงพื้นที่มาดูการคัดค้านของชาวบ้าน
เพื่อแจ้งไปยังโรงไฟฟ้าฯ แห่งนี้ ให้มาทำประชาคมและชี้แจงสร้างความเข้าใจให้กับประชาชนว่า โรงงานไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ เมื่อสร้างแล้วจะส่งผลกระทบกับประชาชนที่พักอาศัยอยู่บริเวณรอบข้าง และจะส่งผลกระทบกับพื้นที่ภาคการเกษตรใน ต.หนองอิรุณ อย่างไรหรือไม่ ชาวบ้านและชุมชนในพื้นที่จะได้รับประโยชน์อะไรจากโรงไฟฟ้า อีกทั้งในเรื่อง บริษัทฯ จะทำการถมที่ดินแปลงนี้ ปัญหาที่ตามมาก็คือ เมื่อถมที่ดินแล้วจะไปกระทบกับเส้นทางน้ำธรรมชาติ เส้นทางน้ำสาธารณะ ที่ชาวบ้านต้องใช้ในภาคการเกษตรหรือไม่ จึงอยากจะให้ บริษัทฯ มาชี้แจงว่าระหว่างการก่อสร้างและหลังจากก่อสร้างเสร็จแล้ว โรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์แห่งนี้ที่มีกำลังผลิตถึง 14,031.36 กิโลวัตต์ เมื่อเปิดใช้แล้วรังสีความร้อนของพลังงานแสงอาทิตย์ จะส่งผลกระทบกับความเป็นอยู่ของชาวบ้าน ซึ่งส่วนใหญ่มีอาชีพเกษตรกรหรือไม่ อย่างไร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับโรงงานผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แห่งนี้ เมื่อก่อสร้างเสร็จแล้วจะมีกำลังในการผลิตไฟฟ้าถึง 14,031.36 กิโลวัตต์ ขายให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค