ด้านนางอนงค์นารถ ปั้นประสงค์ อายุ 31 ปี ภรรยาของ “บี” เปิดเผยว่าในเหตุการณ์วันนั้นร้านก็ได้เปิดให้บริการตามปกติ โดยในส่วนของผู้บริหารทั้งเสี่ยบี และตนเองมีนัดกันจะเข้าไปเช็คซาวน์ในร้านที่ได้ทำการปรับเปลี่ยนใหม่ หลังเช็คสต๊อกของเสร็จ ด้วยนัดทางช่างที่มาทำการติดตั้งไว้แล้ว แต่ปรากฏว่าหลังเข้าไปได้ไม่นานก็ได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นจากบริเวณด้านในก่อนไฟจะลุกลามขึ้น จากนั้นจึงจะโกนบอกทุกคนว่าไฟไหม้ให้รีบหลบหนีออกมาด้านนอก พร้อมสั่งการให้พนักงานช่วยเหลือลูกค้าที่ติดอยู่ภายใน โดยตนเองก็พยายามวิ่งเข้าไปร่วมด้วยแต่ขณะนั้นก็เกิดกลุ่มควันดำพวยพุ่งออกมาอย่างรุนแรง ช่วงนั้นหลังตั้งสติได้ก็ตัดสินใจโทรแจ้งขอความช่วยเหลือไปยังหน่วยกู้ภัยและดับเพลิง จนการ์ดของทางร้านได้ตะโกนบอกว่าห้ามเข้าภายในกำลังจะระเบิดจึงวิ่งออกมาหลบด้านนอก ก่อนเกิดการระเบิดขึ้นซึ่งมีเปลวไฟโหมออกมาด้านนอกอย่างรุนแรง จึงเข้าไปหลบในห้องด้านนอกซึ่งจังหวะนั้นก็มีผู้บาดเจ็บที่ลำตัวมีเปลวไฟวิ่งเข้ามาขอความช่วยเหลือจึงพยายามดับไฟและผ้าห่มมาคลุมตัวไว้ โดยส่วนตัวยอมรับว่าสภาพของผู้ได้รับบาดเจ็บเห็นแล้วยังรู้สึกทำใจไม่ได้และเหตุการณ์ถือว่าชุลมุนเป็นอย่างมาก กระทั่งหน่วยกู้ภัยมาถึงจึงได้ร้องขอความช่วยเหลือ
นาง อนงค์นาถ เปิดเผยต่อว่าในช่วงที่เกิดเหตุการณ์ทั้งสามีและตนเองก็อยู่และพยายามช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับบาดเจ็บไม่ได้หลบหนีไปแต่อย่างใด โดยตั้งแต่เกิดเรื่องขึ้นก็อยู่โรงพักมาตลอด 2 วันไม่ได้อาบน้ำเนื้อตัวมีแต่กลิ่มไหม้ ขณะที่สภาพจิตใจก็ย่ำแย่เป็นอย่างมาก ทั้งนี้สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต้องกราบขออภัยผู้ที่ประสพเหตุและครอบครัวเป็นอย่างมาก ด้วยไม่ได้มีเจตนาให้เหตุการณ์มันเกิดขึ้น ส่วนตนเองและสามีก็เป็นเพียงแค่คน 2 คนที่พยายามทำมาหากินเท่านั้น และพร้อมจะรับผิดชอบดูแลทุกอย่างที่สามารถทำได้ แม้ว่าสิ่งที่พูดจะไม่สามารถชดใช้เรื่องที่เกิดขึ้นได้ก็ตามซึ่งต้องขอโทษจากใจจริงๆ
ส่วนกรณีที่สังคมตั้งข้อสงสัยว่ามีคนมีสีมาเอี่ยว มีนักการเมืองเป็นแบ็คอัพให้นั้น เรื่องจริงคือไม่มีใครมาเกี่ยวข้องแต่อย่างใด เป็นเพียงแค่ความคิดของตนเองและสามีเท่านั้นที่อยากจะเปิดกิจการเป็นของตัวเองเพื่อทำธุรกิจและดำเนินชีวิต