เมื่อเวลา 12.00 น. ณ. ที่ ห้องทรายมณี ชั้น 2 โรงแรมลองบีช การ์เด้น โฮเต็ล แอนด์ สปา พัทยาเหนือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม. พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ธนิต ไทยวัชรามาศ ผบก.สส.สตม., พล.ต.ต.วริศร์สิริภ์ ลีละสิริ ผบก.ตม.3 , พ.ต.อ.อภิมุข กานตยากร รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.ชิตเดชา สองห้อง รอง ผบก.สส.ภ.7 ปฏิบัติราชการ บก.สส.สตม. พ.ต.อ.ปริญญา กลิ่นเกษร ผกก.ตม.จว.ชลบุรี พร้อมกับ ตำรวจชุดสืบสวน สตม. ร่วมกันแถลงข่าว การจับกุม ชาวต่างชาติในคดีสำคัญ จำนวน 5 คดี
โดยคดีแรก ทำการจับกุม นายโจโนธาน อายุ 31 ปี ชาวสวิตเซอร์แลนด์ ตามหมายจับเลขที่ B-18-2612 ลงวันที่ 28 ก.ย.61 ขององค์การตำรวจสากลได้ออกประกาศสีแดง (INTERPOL Red Notice) ในความผิดฐานค้ายาเสพติดอย่างร้ายแรง โดยสามารถจับกุมได้ที่ ด่านตรวจฝั่งขาออกประเทศไทย ภายในท่าอากาศยานสนามบินสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ ระหว่างเตรียมหลบหนีไปยังประเทศเวียดนาม โดยนายโจนาธาน ถือเป็น ผู้ร้ายข้ามแดน คนสำคัญ เนื่องจาก ในช่วงปลายปี พ.ศ.2559 ได้ลักลอบนำยาบ้ากว่า 2,000 เม็ด โดยซื้อมาจาก ชายชาวแอฟริกาผิวสี ที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย จากนั้นลักลอบส่งไปขายให้กับลูกค้าหลายรายในเมืองซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ต่อมา สมาพันธรัฐสวิส และ องค์การตำรวจสากล จึงได้ออกประกาศหมายจับแดง (INTERPOL Red Notice) ก่อนจะส่งเรื่องมายัง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้ทำการสืบสวนจับกุมติดตามจับกุม จนสามารถจับกุมตัวได้ในที่สุด พร้อมทั้ง ส่งตัวกลับไปดำเนินคดีที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
รายที่ 2 เป็นการจับกุม นายสเตฟาน (นามสมมติ) อายุ 45 ปี สัญชาติสวีเดน ได้ที่ บ้านพัก ในพื้นที่ ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จว.ชลบุรี หลัง สตม.ได้รับการประสานจากสำนักงานประสานงานฝ่ายกิจการตำรวจกลุ่มประเทศนอร์ดิก ขอให้ช่วยสืบสวนติดตามจับกุมตัวนายสเตฟาน ผู้ต้องหาตามหมายจับศาล ประเทศสวีเดนและ หมายจับสหภาพยุโรปในข้อหากระทำความผิดฐานละเมิดลิขสิทธิ์ และ เป็นบุคคลตามประกาศตำรวจสากล ซึ่งได้หลบหนีคดีจากประเทศสวีเดนและเดินทางเข้ามาพำนักอยู่ในประเทศไทย โดยพฤติการณ์กระทำผิด ได้ร่วมกับพวกกระทำการละเมิดสิทธิสัญญาณโทรทัศน์ในประเทศสวีเดน ซึ่งมีผู้เสียหายทั้งหมดจำนวน 3 บริษัท แล้วนำไปอากาศ ต่อสาธารณชนในช่องทางอื่น ๆ ยูทูป เฟสบุ๊ก ซ้ำอีกโดยไม่ได้รับอนุญาตจากบริษัทผู้เสียหาย อันเป็นการละเมิดสิทธิของผู้เสียหายในการออกอากาศทางโทรทัศน์ สร้างความเสียหายให้กับบริษัทผู้เสียหายจำนวนมาก จนตำรวจ สตม. สามารถติดตามจับกุมได้ดังกล่าว
คดีที่ 3 จับกุม 1.นายคิม (นามสมมติ) อายุ 40 ปี 2.นายเบค (นามสมมติ) อายุ 28 ปี 3.นายชอย (นามสมมติ) อายุ 32 ปี 4.นายจุง (นามสมมติ) อายุ 25 ปี 5.นายชอน (นามสมมติ) อายุ 39 ปี โดยตำรวจ สตม. ได้ทำการสืบทราบว่า ชาวเกาหลีใต้ทั้งหมดเป็น บุลคลต่างด้าวลักลอบทำงาน โดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน ซึ่งพฤติกรีมทั้งหมด ได้แอบลักลอบ เปิด บริษัททัวร์ ภายในบ้าน พูลวิลล่าหรู แห่งหนึ่ง ในเมืองพัทยา ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี แล้ว ทำการ เปิดเว็บไซต์ เชิงธุรกิจการท่องเที่ยว โดย รับจองทัวร์ให้กับชาวเกาหลีใต้ และ จัดแพคเกจท่องเที่ยวแบบครบวงจรในประเทศไทย พร้อมทั้ง จัดหาที่พักพร้อมเสร็จ และ ใช้บริการสถานประกอบการในเครือของชาวเกาหลีด้วยกัน ทำให้กระทบกับระบบธุรกิจการท่องเที่ยวของ จ.ชลบุรี หรือคล้ายๆกับพฤติกรรม ทัวร์ศูนย์เหรียญ อีกทั้งยัง ถือว่าเป็นพฤติกรรมแย่งงานคนไทยทำ ก่อนจะควบคุมตัวชาวเกาหลีใต้ทั้งหมด ดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
รายที่ 4. ตม.จว.ชลบุรี สนธิกำลังร่วมกับ สืบสวน ตม.3 จับกุม “หนุ่มจีนลักลอบอยู่ไทยนานกว่า 5 ปี” ตม.จว.ชลบุรี ร่วมกับ กก.สส.บก.ตม.3 , สภ.เมืองพัทยา และ ตำรวจท่องเที่ยว ร่วมกันจับกุม นายจาง (นามสมมติ) อายุ 41 ปี สัญชาติจีน ในความผิดฐาน อยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด ได้ที่บริเวณริมถนน ซอยนาเกลือ 18 หมู่ 5 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จว.ชลบุรี ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย พฤติการณ์กล่าวคือ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ร่วมกันสืบสวนหาข่าวชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรม กระทำความผิดขณะที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย จนสืบทราบว่า นายจาง ชอบทำตัว ตีสนิทกับกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนและกลุ่มนักธุรกิจชาวจีนตามแหล่งที่กลุ่มชาวจีนพบปะกัน โดยเข้าไปพูดคุยเชิญชวนให้ลงทุนทำธุรกิจต่างๆในประเทศไทย จึงนำข้อมูลนายจางไปตรวจสอบในระบบสารสนเทศ ตม. พบว่า นายจางเดินทางเข้ามาประเทศไทยเมื่อวันที่ 26 พ.ค.2558 และ ได้ขออยู่ต่อในราชอาณาจักรต่อเนื่องเรื่อยมา ครั้งสุดท้ายได้รับอนุญาตถึงวันที่ 29 ก.ค.2560 ปัจจุบันการอนุญาตสิ้นสุดลงแล้ว เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ติดตามตัวจนพบ นายจาง บริเวณริมถนน ซอยนาเกลือ 18 หมู่ 5 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จว.ชลบุรี จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบว่า อยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด (OVERSTAY) จำนวน 2,160 วัน ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย จากการสอบถามนายจาง รับสารภาพว่า สาเหตุที่อยู่ในราชอาณาจักรจนการอนุญาตสิ้นสุดเนื่องจากตนมีคดีลักทรัพย์ที่ประเทศจีน เกรงว่าหากกลับไปจะได้รับการลงโทษตามกฎหมาย จึงหลบหนีอยู่ในประเทศไทยเรื่อยมา จนถูกจับกุมดำเนินคดีในข้อกล่าวหาดังกล่าว
คดีสุดท้าย รายที่ 5 จับชาวต่างชาติที่เข้ามากระทําความผิดในประเทศไทยในรูปแบบพนันออนไลน์และปลอมตราประทับเข้า- ออก ผู้ต้องหา 17 ราย พร้อมยึดของกลางจำนวนมาก โดย สืบสวน กก 2 บก.สส สตม. ได้นําหมายค้นศาลจังหวัดสมุทรปราการ เข้าทําการตรวจค้นที่ย่าน ต.บางโฉลง อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ โดยจากการตรวจค้นพบกลุ่มพนักงานต่างด้าวสัญชาติเวียดนามมีทั้งชายและหญิง กําลังทําหน้าที่เป็นแอดมินของเว็บพนันออนไลน์ ชื่อเว็บ https://inkbio.me/luiscongviec โดยมีนายทุนเป็นชาวจีนอยู่เบื้องหลัง พร้อมกับยึดของกลางเป็นคอมพิวเตอร์ จํานวน 12 เครื่อง นอกจากนั้นยังขยายผลจับกุม กลุ่มคนต่างด้าว ในบ้านพักที่อยู่ติดกันอีกสองหลัง ซึ่งจากการตรวจค้นพบ ต่างด้าว ทั้งชายหญิงสัญชาติเวียดนาม และ ยังพบของกลาง เป็นอุปกรณ์การทําหนังสือเดินทางปลอม และ ตรายาง ขาเข้า/ออก ตม.ทอ.สุวรรณภูมิ ประเทศพม่าและกัมพูชา รวมไปถึงพบบุหรี่ต่างประเทศหนีภาษีจํานวนหนึ่ง จึงควบคุมผู้ต้องหา ทั้งหมดซึ่งเป็นชาวเวียดนาม พร้อมกับของกลาง ทั้งคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์การผลิตหนังสือเดินทางและตรายางปลอม พร้อมของกลางอื่น ๆ อีกจำนวนมาก สภ.บางพลี โดยมีการแบ่งดำเนินคดี ออกเป็น 3 ส่วน โดยดำเนินคดี กับบุคคลต่างด้าวสัญชาติเวียดนาม 12 คน ข้อหา “ชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนัน , บุคคลต่างด้าวสัญชาติเวียดนามอีก 4 คน ข้อหา ร่วมกันมีไว้ ซึ่งดวงตราหรือรอยตราประทับของ เจ้าพนักงาน (ตราขาเข้า/ออก ตม.ทอ.สุวรรณภูมิ) และ ร่วมกันมีไว้ ซึ่งหนังสือเดินทางของผู้อื่น และคนสุดท้าย สัญชาติเวียดนาม 1 คน ข้อหา มีบุหรี่ต่างประเทศไว้ในความครอบครองโดยไม่ผ่าน ขั้นตอนการศุลกากร ซึ่งจับกุม การบุกเข้าจับกุมในครั้งนี้ ทราบว่ามีกลุ่มบุคคลต่างด้าวลักลอบเช่าบ้านในหมู่บ้านแห่งนี้เปิดเป็นฐานการตั้งเว็บพนันออนไลน์และการปลอมแปลงเอกสารหนังสือเดินทาง ซึ่งมีเงินหมุนเวียนหลายสิบล้านบาท ฝ่ายสืบสวนจึงเฝ้า สังเกตการณ์จนกระทั่งมีเบาะแสแน่ชัดจึงขออนุมัติหมายค้นจากศาลจังหวัดสมุทรปราการ และวางแผนนํากําลังไปปิดล้อม ตรวจค้นจนพบผู้ต้องหาและของกลางจํานวนมาก
จากการสอบสวนขยายผลของเจ้าหน้าที่ทราบว่า สําหรับกลุ่มผู้ต้องหาชาวเวียดนามกลุ่มนี้ จะมีหน้าที่คอย เป็นผู้ดูแลเว็ปพนันออนไลน์ ชื่อเว็บ https://inkbio.me/luiscongviec ซึ่งมีนายทุนเป็นคนจีนคอยสั่งการผ่านทางเฟซบุ๊ก อวตาร จากนั้นนายทุนจะปิดแอคเคาท์ทันทีหลังจากที่สั่งการแล้วเสร็จ จากการสืบสวนขยายผลทราบว่ากลุ่มผู้ต้องหา กลุ่มนี้เพิ่งใช้บ้านพักแห่งนี้เป็นฐานในการดําเนินการทางธุรกิจ ซึ่งย้ายมาจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน และมาเปิดได้เพียง เดือนเศษ ก่อนจะถูกจับกุม ส่วนหนังสือเดินทางก็เป็นการขยายผลจับกุมต่างด้าวที่ใช้หนังสือเดินทางมีตราประทับปลอม จนมีการขยายผลทราบว่าสถานที่แห่งนี้มีการลักลอบทําหนังสือเดินทางปลอมโดยใช้ตราประทับผ่อนผันขออยู่ต่อใน ราชณาจักร หลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะได้ไปขยายผลต่อผู้ร่วมขบวนการทุกราย ส่วนผู้ต้องหาและของกลางทั้งหมดนําส่ง พนักงานสอบสวน สภ.บางพลี ดําเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป……