เมื่อเวลา 11.00 น. ( 9 ม.ค.67 ) นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี เดินทางไปที่ สภ.หนองปรือ จ.ชลบุรี โดยพา น.ส.เมย์ (นามสมมุติ) อายุ 33 ปี คุณแม่เลี้ยงเดี่ยว ลูกสาว 2 คน ชื่อว่า ด.ญ.มายด์ อายุ 4 ขวบ กับ ด.ญ.มิ้น 7 ขวบ โดยผู้เป็นแม่ ได้พาเข้าแจ้งความกับตำรวจ และ ร้องเรียนผ่าน มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ว่าถูก นายแมน (นามสมมุติ) อายุ 47 ปี ปู่เลี้ยง ข่มขืนกระทำชำเรามาแรมปี โดยแม่เด็กทั้งสองยืนยันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด
สืบเนื่องจาก น.ส.เมย์ (นามสมมุติ) อายุ 33 ปี ผู้เป็นแม่ ได้ร้องทุกข์มูลนิธิปวีณาฯ แจ้งว่า ตนเป็น ลูกจ้างร้านขายของชำใน อ.หนองปรือ จ.ชลบุรี ได้เลิกรากับอดีตสามีซึ่งมีลูกด้วยกัน 2 คน เป็นเด็กหญิง 4 ขวบ กับ 7 ขวบ ที่ผ่านมาตนเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว เวลามีธุระจะไปไหนค้างคืนก็จะนำลูก 2 คนไปฝากกับย่าและปู่เลี้ยง เพราะบ้านอยู่ใกล้กัน ครั้งล่าสุดที่นำลูก 2 คน ไปฝากเลี้ยงคือวันที่ 17-19 ธ.ค. 66 จากนั้นเช้าวันที่ 20 ธ.ค. นายแมน ปู่เลี้ยงก็นำลูก 2 คนมาส่งคืนให้แม่ตามปกติ
กระทั่งวันที่ 27 ธ.ค.66 ขณะที่แม่อาบน้ำให้ลูก ลูกสาวทั้ง 2 คน บอกว่าเจ็บที่อวัยวะเพศ และแม่สังเกตเห็นมีคราบสีเหลืองติดอยู่ที่กางเกงในลูกสาวคนโต จึงได้สอบถามลูกเมื่อได้ยินคำตอบแทบช็อก!! ลูกสาวคนโตบอกว่า ถูกปู่เลี้ยงทำทุกครั้งที่แม่พาไปฝากเลี้ยงตั้งแต่ปีที่แล้ว ล่าสุดวันที่ 17-19 ธ.ค. ก็ถูกทำทั้ง 3 วัน น้องก็ถูกทำด้วย เพราะเวลาไปบ้านย่า ปู่เลี้ยงก็เสพกัญชาบ้าง กินเหล้าบ้าง และจะเรียกสองพี่น้องไปนอนด้วยทุกครั้ง ส่วนย่าก็ไม่ว่าอะไรเพราะย่านอนคนละห้อง ทุกครั้งปู่เลี้ยงก็จะข่มขืนและข่มขู่เด็กทั้งสองห้ามไปบอกใคร มิฉะนั้นจะฆ่าให้ตาย เด็กจึงกลัวไม่กล้าปริปากบอกแม่
เมื่อแม่ทราบเรื่องได้พาลูกน้อยทั้งสองเข้าแจ้งความที่สภ.หนองปรือ เจ้าหน้าที่ตำรวจส่งเด็กทั้งสองไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล ผลเบื้องต้นปรากฎว่าลูกสาวคนโตอวัยวะเพศฉีกขาดและมีการติดเชื้อในช่องคลอด ขณะที่ลูกสาวคนเล็กก็มีร่องรอยถูกล่วงละเมิดทางเพศ ซึ่งแพทย์ได้ให้ยาฆ่าเชื้อและยาต้านเชื้อ HIV มากินเพื่อรักษาอาการและป้องกันการติดเชื้อ ขณะที่ตอนนี้แม่ก็มีความกังวลและเป็นห่วงมากเพราะลูกสาวทั้งสองคนก็มีอาการซึมเศร้าและหวาดกลัวอยู่ตลอดเวลา ตอนนี้นายแมน ยังไม่รู้ว่าแม่ทราบเรื่องและแจ้งความแล้ว จึงขอให้มูลนิธิปวีณาฯ ช่วยติดตามคดีเอาตัว นายแมน ปู่เลี้ยง มารับโทษตามกฎหมายโดยเร็ว เพราะเกรงจะไหวตัวทันแล้วหลบหนี
หลังรับเรื่อง นางปวีณา ได้ประสาน พ.ต.อ.ทวี กุดแถลง ผกก.สภ.หนองปรือ มอบหมายให้ พ.ต.ท.ญัติติพงษ์ เจียมพวก สว.สอบสวน นัดสอบสหวิชาชีพเด็กหญิงสองพี่น้องในวันที่ 8 ม.ค.66 โดยมอบหมายให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิปวีณาฯ พาไปสอบสหวิชาชีพที่สำนักงานอัยการภาค 2 จ.ชลบุรี ก่อนที่พนักงานสอบสวนจะรวบรวมพยานหลักฐานและผลตรวจแพทย์ขออนุมัติศาลจังหวัดชลบุรีออกหมายจับนายแมน ปู่เลี้ยงรายนี้
ล่าสุดวันนี้ ( 9 ม.ค.66 ) ศาลจังหวัดพัทยา ได้ออกหมายจับ นายธวัช บุญจันทร์ อายุ 47 ปี ตามเลขที่หมายจับเลขที่ 2/2567 ในข้อหา ข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิงอายุไม่เกิน 13 ปี และ อนาจารเด็ก จากนั้น พ.ต.อ.ทวี กุดแถลง ผกก.สภ.หนองปรือ พร้อมชุดสืบสวน นำหมายจับ ไปควบคุมตัว นายธวัช บุญจันทร์ หรือแมน อายุ 47 ปี ได้ที่บริเวณย่านพัทยากลาง หมู่ 9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จากนั้นควบคุมปู่รายนี้มาทำการสอบสวน ในเบื้องต้นจากการสอบสวนยอมรับว่าได้กระทำอนาจารหลานจริง แต่ปฏิเสธในเรื่องของการข่มขืน โดยอ้างว่าใช้นิ้วสอดใส่ เข้าไปในอวัยวะเพศของ หลาน เท่านั้น เบื้องต้น ได้ทำการลงบันทึกจับกุม และสอบปากคำในเบื้องต้น ก่อนนำตัวเข้าห้องขังทันที พร้อมคัดค้านการประกันตัวในชั้นจับกุม เนื่องจากทางญาติมีการยื่นคัดค้านการประกันตัว เนื่องจาก ผู้ต้องหาก่อนหน้านี้ มีการข่มขู่ หาถูกปล่อยตัวมาจะตามฆ่าทั้งครอบครัว
นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี เปิดเผยว่า ต้องขอชื่นชม ตำรวจ สภ.หนองปรือ ที่สามารถทำงานได้อย่างรวดเร็ว จนสามารถจับปู่เลี้ยงหื่นรายนี้ได้แล้ว นอกจากนี้ ยังได้ประสาน นางสาวจันจิรา ไทยบัณฑิตย์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดชลบุรี และนางนัทธมน กิจดำรงกุล หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดชลบุรี ให้การช่วยเหลือครอบครัวและดูแลสภาพจิตใจเด็กทั้งสองคน และนางปวีณา ได้ประสาน ดร.มยุรี จำจรัส ยุติธรรมจังหวัดชลบุรี โดยจะมี นายณัฐฐัฐนนท์ ประคองใจ รองยุติธรรมจังหวัดชลบุรี มารับเรื่องขอรับเงินเยียวยาจากผู้เสียหายที่สภ.หนองปรือ ทั้งนี้มูลนิธิปวีณาฯ จะติดตามการช่วยเหลือ 3 แม่ลูกผู้เสียหายร่วมกับกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ นอกจากนี้ เมื่อปี 2566 ที่ผ่านมา ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี มีการรับเรื่องร้องเรียนกว่า 2 พันเรื่อง โดยเป็นเรื่องเกี่ยวกับละเมิดทางเพศเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี กว่า 1,038 เรื่อง จะอยากฝากถึงทุกครอบครัว ช่วยกันสอดส่องดูแลลูกหลาน โดยเฉพาะคนใกล้ชิด เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้อีก ….