เมื่อเวลา 15.00 น. ของวันนี้ 19 มี.ค.67 ที่สโมสรสัญญาบัตรกองเรือยุทธการ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี พลเรือเอกชาติชาย ทองสะอาด ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ พร้อมด้วย พลเรือตรีเฉลิมชัย สวนแก้ว ผู้บัญชาการกองเรือตรวจอ่าว และ นาวาเอกปิยะศักดิ์ นิลนิมิตร รองผู้อำนวยการศูนย์ซ่อมสร้างสรรพาวุธ ร่วมแถลงข่าว กรณีที่มีการเผยแพร่ข่าวเหตุเพลิงไหม้ เรือหลวงชลบุรี อาวุธปืนหัวเรือยืงใส่ เรือหลวงคีรีรัฐ ที่เทียบเรืออยู่ด้านหน้า ว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 11.45 น. ของวันที่ 14 มีนาคม 2567 ขณะที่เรือหลวงคีรีรัฐกำลังจอดเทียบท่าอยู่ที่ บริเวณท่าเรือแหลมเทียน ฐานทัพเรือสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ว่าสาเหตุในเบื้องต้นพบว่ามาจากกระสุนปืนขนาด 76 มิลลิเมตร ของเรือหลวงชลบุรี ซึ่งเกิดการขัดข้องและติดค้างอยู่ในตัวปืนขณะทำการฝึกในทะเล เมื่อ 13 มีนาคม 2567 ซึ่ง เรือหลวงชลบุรี ได้ดำเนินการป้องกันอันตรายเบื้องต้น และแล่นเข้าจอดเทียบท่าเรือ และให้เจ้าหน้าที่ช่างปืนมาดำเนินการแก้ไขปัญหา แต่เกิดเหตุลั่นขณะดำเนินการแก้ไข จนทำให้เรือหลวงคีรีรัฐ ได้รับความเสียหาย บริเวณท้ายเรือเล็กน้อย แต่เรือยังคงมีขีดความสามารถในการปฏิบัติการ โดยไม่มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว
แต่พบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 14 ราย ส่วนมากเกิดจากการสำลักควันไฟ โดยได้นำผู้บาดเจ็บทั้งหมดส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ ในทันทีที่เกิดเหตุ และเฝ้าระวังอาการของผู้บาดเจ็บอย่างใกล้ชิด จนปัจจุบัน ทุกนายอยู่ในอาการปลอดภัยโดยสามารถเดินทางกลับบ้านได้แล้วจำนวน 10 นาย และเฝ้าระวังอีก 4 นาย
ทางด้าน พลเรือตรีเฉลิมชัย สวนแก้ว ผู้บัญชาการกองเรือตรวจอ่าว เปิดเผยว่าเรือหลวงชลบุรีออกปฏิบัติการฝึกซ้อมยิงระเบิดบริเวณหน้า อ่าวในวันที่ 13 มีนาคม 2567 โดยคณะทำการฝึกนั้นพบว่ามีการติดขัดของปืนจำนวนสองครั้งแต่ก็สามารถซ่อมแซมแก้ไขได้กระทั่งมีปัญหาอีกจึงนำเรือเข้าเทียบท่าที่ท่าเรือแหลมเทียน เพื่อทำการแก้ไขโดยขณะนั้นได้หันกระบอกปืนตั้งฉาก 45 องศาเพื่อความปลอดภัยต่อมาได้มีการปรับลดระดับลง 5 องศาเพื่อทำการซ่อมบำรุงแต่เกิดการขัดขัดข้องด้วยปัญหาทางเทคนิคจึงทำให้หัวกระสุนพุ่งไปโดนยังเรือหลวงคีรีรัฐบริเวณ ด้านท้ายเรือทำให้เกิดความเสียหายจำนวนสี่ห้องและมีทหารได้รับบาดเจ็บ 14 นายตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้ว
อย่างไรก็ตามกรณีดังกล่าวทาง ผบ.ทร. ได้มอบหมายให้ตั้งคณะกรรมการขึ้นสอบสวนข้อเท็จจริงเป็นการเร่งด่วนและรายงานผลภายในสามวัน ซึ่งได้รายงานข้อเท็จจริงไปแล้วทั้งนี้ต้องยอมรับว่าเรือหลวงชลบุรีเป็นเรือหลวงที่มีมีอายุราชการนานหลาย 10 ปีจึงอาจเกิดข้อขัดข้องขึ้นได้บ้าง แต่เมื่อมีปัญหาขึ้น ผบ.เรือ ก็จะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ปัจจุบันได้ลงนามคำสั่งให้ย้าย ผบ. เรือหลวงชลบุรี มาประจำการที่กองบัญชาการกองเรือตรวจอ่าว เป็นการชั่วคราว เพื่อสอบสวนข้อเท็จจริง และขอยืนยันว่าจะไม่ให้เกิดปัญหาเช่นนี้ขึ้นอีกด้วยกรณีนี้ถือเป็นบทเรียนสำคัญของกองทัพเรือไทย