จากกรณี เมื่อวันที่ 16 เม.ย.67 มีวัยรุ่นถูกอาวุธปืนยิง บาดเจ็บ จำนวน 4 คน กลางซอยบ่อนไก่ ในวันไหล ม.6 ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี โดยมีผู้บาดเจ็บ เป็นชาย จำนวน 3 คน เป็นหญิงจำนวน 1 คน ถูกอาวุธปืนยิงเข้าที่ บริเวณลำตัว ทั้งหมดถูกนำส่ง โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ โดย นาย นพรัตน์ สายทอง อายุ 23 ปี หรือฟิล์ม ผู้บาดเจ็บ เสียชีวิตในเวลาต่อมา และ มีนาย รัชชานนท์ อธิกรม อายุ 20 ปี (บาดเจ็บ)นาย จีรายุทธ แจ่มจันทร์ อายุ18 ปี (บาดเจ็บ) ด.ญ. ศิลาลักษณ์ สาใจ อายุ 13 ปี (บาดเจ็บ) ซึ่งเป็นบุตรสาว พ.ต.ต.ศิลา สาใจ สวป.สภ.สัตหีบ
ต่อมา ในวันที่ 17 เม.ย. ศาลจังหวัดพัทยา ที่ 206 /2567 ได้ออกหมายจับ นายจักรี ฉิมคีรี หรือ จักร อายุ 38 ปี ในข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ,พยายามฆ่าผู้อื่น,มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต , พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัวและไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วน และยิงปืนโดยใช้เหตุในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะ ก่อนในช่วงเย็นชุดสืบสวนจังหวัดชลบุรี สามารถจับกุม นายจักรี ฉิมคีรี หรือ จักร อายุ 38 ปี ตามหมายจับ ได้ที่ อ.เขาชะเมา จ.ระยอง หลังก่อเหตุ แล้วหนีไปกบดาล
ล่าสุดวันนี้ 18 เม.ย.67 พนักงานสอบสวน สภ.สัตหีบ ได้นำตัว นายจักรี ฉิมคีรี หรือ จักร ออกมาสอบสวน ทราบว่า ให้การปฎิเสธทุกข้อกล่าวหา และพร้อมให้การต่อสู้คดีในชั้นศาล พร้อมกล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้ออกไปเล่นสงกรานต์วันไหลกับเพื่อน ตามปกติโดยนำอาวุธปืนติดตัวไปเพื่อป้องกันตัว ขณะนั้นเพื่อนตนได้มาตามบอกถูกกลุ่ม นายสุรสิงห์ เชาว์ศิลป์ หรือ เสือ อายุ 33 ปี ไล่ทำร้าย ตนจึงได้ไปเพื่อพยายามพูดคุย เคลียร์ ปัญหา ก่อนจะมีการทะเลาะวิวาท ตะลุมบอนกัน ตนจึงได้ควักปืน ขนาด 9 มม. จ่อที่หัว นายสุรสิงห์ แต่ไม่ได้ขึ้นลำหรือเหนี่ยวไก แต่อย่างใด ตามที่เป็นข่าว ซึ่งจังหวะนั้นเอง ผู้ตาย นาย นพรัตน์ สายทอง อายุ 23 ปี หรือฟิล์ม ได้เอาอาวุธเหล็กปลายแหลมบุกเข้ามาแทง ที่ลำตัวตนถึง 2 ครั้ง ตนจึงชักปืนออกมายิงป้องกันตัวดังกล่าว
พร้อมกับให้การอีกว่า นายสุรสิงห์ เคยมีปัญหาเรื่องผู้หญิงกันกับกลุ่มน้องๆ ของเพื่อนนายจักร ก่อนวันไหลมาเจอกัน และเกิดการทะเลาะวิวาท และมาตามตนไปช่วย พูดคุยเพื่อจบปัญหา โดยอาวุธปีน ที่ใช้เป็น ขนาด 9 มม. บาเร็ตต้า หลังเกิดเหตุ ได้นำไปซ่อนทิ้งในพุ่มไม้ แถว จ.ระยอง ก่อนจะหายไป
แต่ยังไงคำให้การของทั้ง 2 ฝ่ายยังไม่ตรงกัน ซึ่งจะได้มีการเรียกคู่กรณี มาสอบสวนเพิ่มเติม ในประเด็นต่างๆ เพื่อส่งสำนวน รวบรวมหลักฐานส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งปลอกกระสุนปืน ที่เกิดเหตุไปตรวจสอบ ที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน ชลบุรี แล้ว เพื่อตามหาเจ้าของปืนดังกล่าวเป็นว่าของบุคคลใดที่ถือครอบครอง ถ้ามีการจดทะเบียน ซึ่งต้องรอผลการตรวจ ส่งกลับมาอีกครั้ง ขณะนี้ได้เรียกผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมด มาสอบปากคำเพิ่มเติม แล้วกว่า 10 คน ซึ่งจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบคนร้ายขับขี่ จยย หลบหนีไปเองโดยไม่มีบุคคลใดพาหลบหนีแต่อย่างใด ซึ่งต้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งว่ามีบุคคลใดให้การช่วยเหลือหรือไม่ ถ้าพบให้มีการให้ความช่วยเหลือหลบหนี ก็ต้องถูกดำเนินตามกฎหมายทุกคน โดยตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึด ของกลางของคนร้าย มี จยย ที่ใข้ในการหลบหนี และเสื้อผ้าที่ใช้ในขณะก่อเหตุ
โดยพรุ่งนี้ เจ้าหน้าที่ จะได้นำตัว นายจักรี ฉิมคีรี ไปฝากขังยังศาลจังหวัดพัทยา โดยไม่มีการนำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพแต่อย่างใด เพื่อความปลอดภัยของตัวผู้ต้องหา ดังกล่าว