วันนี้ (12 พฤศจิกายน 2563) พลเรือโท เชษฐา ใจเปี่ยม โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่าตามที่มีรายงานข่าวว่า มีผู้แทนกองทัพสาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลีใต้) ที่เดินทางกลับประเทศ ตรวจพบว่าติดเชื้อ COVID – 19 ภายหลังกลับจากการเข้าร่วมประชุมวางแผนขั้นสุดท้าย (FPC) การฝึกร่วม/ผสม คอบร้าโกลด์ 21 ณ โรงแรมสิรินพลา อ.บ้านฉาง จว.ระยอง ระหว่าง 2 – 6 พ.ย.63 โดยเป็นการตรวจในลักษณะของ rapid test ณ จุดคัดกรอง สนามบินอินชอน จากการติดตามข้อมูลย้อนหลัง และอาการแสดง มีความเป็นไปได้ว่าจะเป็น false positive โดยทุกนายร่างกายแข็งแรงดี ไม่มีอาการผิดปกติใด ๆ แต่อย่างไรก็ตามได้ทำการผลตรวจซ้ำด้วย PCR Test ซึ่งจะให้ผลยืนยันได้ชัดเจนและแน่นอน ในวันที่ 15 พ.ย.63 ทันทีที่ทราบข่าว กองทัพเรือ
ได้สั่งการให้หน่วยต่าง ๆ เพิ่มมาตรการป้องกัน และกำชับกำลังพลและครอบครัวให้เพิ่มการระมัดระวังและปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรค ของ ศบค. และ กระทรวงสาธารณสุข พร้อมทั้งเร่งตรวจสอบรายชื่อกำลังพลกองทัพเรือ ที่มีส่วนร่วมในการประชุมฯ และผู้ที่มีโอกาสใกล้ชิดกับผู้ตรวจพบเชื้อ พบว่ามีจำนวนรวมทั้งสิ้น 82 นาย จึงได้ประสานให้กำลังพลทั้งหมดเข้ารายงานตัว และทำการตรวจสารคัดหลั่ง (SWAP test) ที่อาคารรับรองสัตหีบ เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2563 พร้อมทั้งให้เข้าพักสังเกตอาการ ณ อาคารรับรองสัตหีบ จำนวน 14 วัน ในทันที พร้อมกันนั้นได้สั่งการให้จัดรถรับส่งกำลังพล และจัดเจ้าหน้าที่ จากกรมแพทย์ทหารเรือ และ กรมวิทยาศาสตร์ทหารเรือ พร้อมอุปกรณ์ป้องกันการแพร่ระบาดและอุปกรณ์ชำระล้าง ในระหว่างการเดินทางเข้ารายงานตัว
ต่อมาเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2563 ชุดแพทย์ จากกรมแพทย์ทหารเรือ ได้ทำการตรวจคัดกรองและแบ่งแยกผู้มีความเสี่ยงกำลังพลทั้ง 82 นาย โดยผู้มีความเสี่ยงมาก ให้เข้าพักอาคารรับรอง ส่วนผู้ที่มีความเสี่ยงต่ำลงมา ให้ไปกักตัวที่บ้าน 14 วัน โดยเข้าอาคารรับรอง จำนวน 51 นาย กักตัวที่บ้านจำนวน 29 นาย ไม่เข้าข่าย 2 นาย ในส่วนของผู้ที่มีความเสี่ยงที่เข้ากักตัว ณ อาคารรับรองนั้น ชุดแพทย์ ได้ทำการตรวจสารคัดหลั่ง (SWAP test) ทั้ง 51 นาย ซึ่งทุกนายผลการตรวจพบว่าออกมาเป็นลบ
ทั้งนี้ กองทัพเรือ ได้เน้นย้ำการปฏิบัติตามมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โดยให้หน่วยต่าง ๆ ของกองทัพเรือ ปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคที่ ศบค. กระทรวงสาธารณสุข และ กองทัพเรือ สั่งการโดยเคร่งครัด เช่น มาตรการคัดกรองการสวมหน้ากากอนามัย การเว้นระยะห่างทางสังคม และการหลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีความแออัด เป็นต้น โดยปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เป็นสิ่งที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้ให้ความสำคัญและถือเป็นนโยบายเร่งด่วน โดยได้สั่งการให้
ทุกหน่วยของกองทัพเรือ เตรียมความพร้อมและระดมขีดความสามารถทุกรูปแบบในการสนับสนุนการป้องกันและแก้ไขปัญหาดังกล่าว