หน้าแรก ข่าวประชาสัมพันธ์ พบแล้ว 3 ผู้สูญหายที่เหลือ จากเหตุเรือประมงอนันตศักดิ์ อับปาง กลางทะเล จ.ระยอง

พบแล้ว 3 ผู้สูญหายที่เหลือ จากเหตุเรือประมงอนันตศักดิ์ อับปาง กลางทะเล จ.ระยอง

369
0
แบ่งปัน

เมื่อช่วงกลางดึกวันที่  3 พ.ย. 2564 ทัพเรือภาคที่ 1 ได้ส่ง เรือหลวงมันนอก พร้อมด้วย ทีมนักประดาน้ำ จากกองประดาน้ำและถอดทำลายอมภัณฑ์ กรมสรรพาวุธทหารเรือเข้าทำการค้นหา ลูกเรือประมงอนันตศักดิ์ ที่สูญหาย อย่างต่อเนื่อง จากเหตุเรืออับปาง เมื่อวันที่ 30 ต.ค. 64 เวลา 2200 น. ที่ผ่านมา ซึ่งยังคงมีลูกเรือสูญหายอีก 3 ราย เป็นไต๋ชาวไทย 1 ราย และ ลูกเรือชาวเมียนมาร์ 2 ราย โดยเรือหลวงมันนอก พร้อมด้วย ทีมนักประดาน้ำ ออกเดินทางจากท่าเรือแหลมเทียน ฐานทัพเรือสัตหีบ ตั้งแต่เวลา 0400 น. และ เดินทางถึง จุดที่เรืออับปางเวลา 0800 น.

                ในเวลา 08.22 น. ทีมนักประดาน้ำ ได้ลงทำการดำค้นหาผู้สูญหาย บริเวณจุดเรือประมงอนันตศักดิ์ อัปปาง และได้พบลูกเรือชาวเมียนมาร์ จำนวน 1 ราย เสียชีวิตโดยมีเชือกอวนพันร่างอยู่บริเวณดาดฟ้าท้ายเรือ เจ้าหน้าที่ เรือหลวงมันนอกและทีมนักประดาน้ำ จึงได้ช่วยกันนำศพลูกเรือชาวเมียนมาร์ขึ้นมาเก็บไว้บนเรือหลวงมันนอก

                ในเวลา 08.30 น. ได้ รับรายงานจาก ศูนย์ปฏิบัติการ ทัพเรือภาคที่1 ว่าได้พบร่างผู้เสียชีวิตลอยอยู่กลางทะเลห่างจากจุดเรือประมงอนันตศักดิ์อับปางประมาน 12 ไมล์ โดยเรือประมงในพื้นที่ได้นำศพมาส่งให้กับ เรือหลวงมันนอก ในเวลา 11.00 น.  ภายหลังทราบว่า เป็นไต๋เรือชาวไทย ของเรือประมงอนันตศักดิ์ ที่อัปปาง  

                และ ในเวลา 16.15 น. ได้รับรายงานจาก ศูนย์ปฏิบัติการ ทัพเรือภาคที่1อีกครั้ง ว่าได้พบร่างผู้เสียชีวิตลอยอยู่กลางทะเลห่างจากจุดเรือประมงอนันตศักดิ์อับปางประมาน 3 ไมล์ เป็นลูกเรือชาวเมียนมาร์ โดยเรือประมงในพื้นที่ได้นำศพมาส่งให้กับ เรือหลวงมันนอก ในเวลา 18.00 น.

                ในการนี้ เรือหลวงมันนอก ได้นำร่างผู้เสียชีวิต ทั้ง 3 ราย ได้แก่ นายอดิเรก มาลาสี อายุ 42 ปี ไต๋ชาวไทย นายโก อายุ 45 ปี และนายไนท์ อายุ 23 ปี ชาวพม่า เดินทางถึง ท่าเรือแหลมเทียน ฐานทัพเรือสัตหีบ ในเวลา 22.15 น. โดยมี เจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.สัตหีบ เจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถาน สัตหีบเดินทางมาตรวจ และ รับร่างผู้เสียชีวิต ก่อนส่งไปชันสูตร ณ รพ.สัตหีบ กม.10 และส่งมอบให้กับญาติดำเนินพิธีทางศาสนาต่อไป

​                ทั้งนี้ต้องขอขอบคุณ การบูรนาการร่วมกันของ ทัพเรือภาคที่1  ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค1 ทีมนักประดาน้ำ จากกองประดาน้ำและถอดทำลายอมภัณฑ์ กรมสรรพาวุธทหารเรือ และ เครือข่าย พี่ น้อง ชาวประมงในทะเล ที่ทำให้ภารกิจการค้นหาผู้สูญหายสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี และส่งต่อให้ครอบครัวได้ดำเนินพิธีทางศาสนาต่อไป