ที่ห้องประชุม ศาลาประชาคม อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ว่าที่พันตรี ชาติชาย ศรีโพธิ์อ่อน นายอำเภอสัตหีบ มาเป็นประธานในการเปิดการประชุม ปัญหาการทำประมงในพื้นที่อำเภอสัตหีบ โดยมี ดร.สะถิระ เผือกประพันธุ์ สส.เขต8 ชลบุรี พลเรือตรี สมพงษ์ ศรอากาศ รองผู้อำนวยการศรชล.ภาค1 ผู้แทนจากทัพเรือภาคที่1 สถานีตำรวจภูธรสัตหีบ ตำรวจน้ำสัตหีบ ด่านตรวจประมงชลบุรี สำนักงานจัดหางานจังหวัดชลบุรี ประธานกลุ่มประมงพื้นที่สัตหีบ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาพัทยา ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมการประชุม เพื่อหาแนวทางการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรมและชัดเจน
สำหรับการประชุมในครั้งนี้ มีวาระการประชุมในหลายเรื่อง โดยในเรื่องของ ปัญหาการทำประมงในพื้นที่อำเภอสัตหีบกรณีเรือประมงพื้นบ้านจากพื้นที่ใกล้เคียง เข้ามาวางอวนหมึกสามชั้น ซึ่งตาอวน ชั้นในมีขนาดเล็กประมาณ 7 ชม.ทำให้ติดปูม้าขนาดเล็กจำนวนมากบริเวณพื้นที่อนุรักษ์และจัดทำบ้านปลาของกลุ่มประมงพื้นบ้านชุมชนต้นหาด ซึ่งการหารือสรุปว่าขนาดตาอวนไม่ผิดกฎหมาย แต่ขอให้จัดทำแนวเขตพื้นที่อนุรักษ์ โดยวางทุ่นไว้ให้ชัดเจน และขอความร่วมมือจากเรือที่มาวางอวนหมึกไม่ให้เข้ามาวางบริเวณดังกล่าว โดยประธานกลุ่มประมงพื้นบ้านที่สมาชิกมาวางอวนรับปากจะแจ้งสมาชิกไม่ให้มาวางในบริเวณ ดังกล่าว ส่วนเรื่องจะออกกฎระเบียบควบคุม ค่อยพิจารณาในโอกาสต่อไป
ในเรื่อง การจัดทำหนังสือคนประจำสำหรับแรงงานต่างด้าว (Seabook) พฤติกรรมปลอมแปลงเอกสารใบรับคำขออนุญาตทำงานแทนคนต่างด้าว(บต.50) เพื่อขอหนังสือคนประจำเรือ และดำเนินการ หลังพบเอกสารปลอม หนังสือคนประจำเรือ มีหนังสือแจ้งพฤติกรรมการปลอมแปลงเอกสารใบรับคำขออนุญาต ทั้งนี้ จัดหางานได้มีหนังสือรายงานผลการตรวจสอบการปลอมแปลงใบรับคำขออนุญาตทำงานแทนคนต่างด้าว แจ้งว่าได้ตรวจสอบข้อมูลจากระบบบริการแรงงานต่างด้าว โดยสืบคันจากเลขประจำตัวคนต่างด้าว ปรากฏว่าไม่พบข้อมูลคนต่างด้าวจำนวนดังกล่าว และจากการตรวจสอบจากคิวอาร์โค๊ พบว่าข้อมูลไม่ตรงกับเอกสารแต่อย่างใด บันทึกถ้อยคำเจ้าของเรือประมงซึ่งพบเอกสารปลอมและเอกสารเท็จ ดำเนินการร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนเพื่อให้ดำเนินคดีต่อไป
ในเรื่องของปัญหาซากเรือ จมบริเวณอ่าวสัตหีบหน้าโรงพยาบาลอาภากรเกียรติวงศ์ทางสำนักงานประมงจังหวัดชลบุรี ได้ตรวจสอบข้อมูลแล้ว พบว่า เป็นเรือประมงของเวียดนาม โดยตามระเบียบกรมประมง ว่าด้วยการจัดการของกลางที่เป็นเรือประมงฯ ในกรณีพนักงานเจ้าหน้าที่สังกัดกรมประมงเป็นผู้จับกุม เป็นเรือเวียดนาม จำนวน ๕ คดี ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า เรือไม่อยู่ในสภาพที่จะดำเนินการขายทอดตลาดได้ ทางสำนักงานประมงจังหวัดฯ ทำเรื่องถึงอธิบดีกรมประมงเพื่อขออนุมัติทำลายเรือต่อไป ในส่วนกรณีที่หน่วยงานอื่นเป็นผู้จับกุม เป็นเรือเวียดนาม จำนวน 33 คดี แบ่งเป็นตำรวจน้ำเป็นผู้จับกุม จำนวน 3 คดี และทหารเรือเป็นผู้จับกุม จำนวน 30 คดี
และในเรื่องของ การจอดเรือบริเวณสะพานกลุ่มเกษตรกรทำการประมงบางเสวสะพานกลุ่มทำประมงบางเสร่ มีเรือประมงพาณิชย์ที่มีสภาพชำรุดมาก เรือและบางลำก็จมอยู่บริเวณสะพาน ประมาณ 10 ลำ เป็นเรือที่โดนล็อคบ้าง เรือที่ขอทำลาย และเรือที่ขำรุดไม่ได้ออกทำการประมง ทำให้เสียพื้นที่จอดเรือของสะพานกลุ่มประมง และมีพื้นที่จอดเรือไม่เพียงพอ
นิราช ทิพย์ศรี /นันทพล ทิพย์ศรี อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี 0909535645,0945565622/086-3684323