หน้าแรก ข่าวกีฬา ททท. ขานรับส่งเสริมการท่องเที่ยว ต้นแบบท่องเที่ยวเชิงกีฬาทางน้ำด้วยการแข่งขันว่ายน้ำนานาชาติ OCEANMAN PATTAYA 2023 เสริมนโยบายท่องเที่ยวเชิงกีฬาบริเวณชายฝั่งทะเลภาคตะวันออก

ททท. ขานรับส่งเสริมการท่องเที่ยว ต้นแบบท่องเที่ยวเชิงกีฬาทางน้ำด้วยการแข่งขันว่ายน้ำนานาชาติ OCEANMAN PATTAYA 2023 เสริมนโยบายท่องเที่ยวเชิงกีฬาบริเวณชายฝั่งทะเลภาคตะวันออก

274
0
แบ่งปัน

ที่ บริเวณชายหาด โรงแรม ฎ-ชฎา ตำบลนา จอมเทียน อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี นายอนุศิษย์ สุขประเสริฐ OCEANMAN THAILAND RACE DIRECTOR พร้อมด้วย Mr.Luise Jose Ralose OCEANMAN GLOBAL MANAGER ,นายอัฐพล ประมวลศิลป์กุล COURSE DIRECTOR และนายณัฐวัฒน์ มายุศิริ รองนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลนาจอมเทียน ร่วมแถลงข่าวการแข่งขันว่ายน้ำนานาชาติ OCEANMAN PATTAYA 2023

นายอนุศิษย์ สุขประเสริฐ OCEANMAN THAILAND RACE DIRECTOR กล่าวว่า สำหรับการแข่งขันว่ายน้ำ นานาชาติ โอเชี่ยนแมน พัทยา 2023 จัดขึ้นเพื่อมุ่งหวังให้เป็นสื่อกลางระดับนานาชาติเพิ่มการรับรู้และประชาสัมพันธ์แหล่ง ท่องเที่ยวชายทะเลควบคู่กับการออกกำลังกายแนวใหม่ที่ดำเนินกิจกรรมตามมาตรฐานสากล “โอเชี่ยนแมนพัทยา 2023” ซึ่งกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20 และ 21 พฤษภาคม 2556 

ทั้งนี้กิจกรรมประกอบไปด้วยการแข่งขันว่ายน้ำในทะเล 4 ระยะ 5 ประเภทการแข่งขัน คือ ว่ายน้ำระยะ OCEANMAN (10 กิโลเมตร), ระยะ Half OCEANMAN(5 กิโลเมตร), ระยะ SPRINT (2 กิโลเมตร), ระยะ OCEANKIDS (1 กิโลเมตร) และระยะ OCEANTEAMS (1 กิโลเมตรแข่งขันเป็นทีม ทีมละ 3 คน) ชิงชัยตามรุ่นอายุที่กำหนดแข่งขันจำนวน 2 วัน โดยวันที่ 20 พฤษภาคม 2566 แข่งขันระยะ SPRINT, OCEANKIDS และ OCEANTEAMS ส่วนวันที่ 21 พฤษภาคม 2566 แข่งขันระยะ OCEANMAN และ Half OCEANMAN โดยกิจกรรมครั้งนี้เป็น สนามใหม่ของปี ซึ่งเปิดโอกาสให้นักว่ายน้ำได้เก็บคะแนะสะสมเพื่อผ่านไปร่วมแข่งขันชิงแชมป์โลกช่วงปลายปีที่ จังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นสถานที่จัดกิจกรรม OCEANMAN WORLD FINAL CHAMPIONSHIPS PHUKET 2023 ที่จะมีนัก ว่ายน้ำโอเชี่ยนแมนจากทั่วโลกกว่า 2,000 คน จาก 32 ประเทศ ร่วมแข่งขันในครั้งนี้ และสามารถเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศไทยได้กว่า 350 ล้านบาท การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย มุ่งเน้นให้กิจกรรมกีฬากลางแจ้งแนวใหม่ในสถานที่ท่องเที่ยวชายทะเล เป็นกิจกรรมที่สร้างการรับรู้ในระดับนานาชาติช่องทางใหม่นำเอาการอออกกำลังกายรูปแบบใหม่มาผสานกับความสวยงามของสถานที่ท่องเที่ยวของไทย เกิดเป็นอัตลักษณ์ที่สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจในภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวได้เป็น อย่างดี สามารถเห็นผลระหว่างจัดกิจกรรมพร้อมทั้งยังสามารถส่งเสริมภาพลักษณ์ต่อยอดด้านอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ในอนาคตได้อีกด้วย


โดยกิจกรรมครั้งนี้ได้มีการรักษาความปลอดภัยที่รัดกุม และมั่นใจว่าผู้ร่วมกิจกรรมทุกท่านจะ สนุกสนานกับการว่ายน้ำกันอย่างปลอดภัย พร้อมทั้งยังช่วยเป็นกระบอกเสียงในการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวได้อีกด้วย จากสถิติการสมัครเข้าร่วมกิจกรรม ทราบว่ามีผู้เข้าร่วมกิจกรรมชาวต่างชาติมากกว่าร้อยละ 70 ของจำนวนผู้ร่วม กิจกรรมทั้งหมด 819 คน คาดว่าจะมีกระแสเงินหมุนเวียนในพื้นที่จัดกิจกรรมมากกว่า 70 ล้านบาทตลอดระยะเวลา 7 วันก่อนและหลังจัดกิจกรรม