หน้าแรก ข่าวอาชญากรรม ชาฮ์รูค ลั่นสาบาน ไม่ได้ลงมือฆ่าหั่นศพ ถูก ฮาลอฟ ขู่ฆ่า อุ้ม น้องสาว – แฟนสาว ไปขายให้กับแก๊ง เอาท์ลอว์...

ชาฮ์รูค ลั่นสาบาน ไม่ได้ลงมือฆ่าหั่นศพ ถูก ฮาลอฟ ขู่ฆ่า อุ้ม น้องสาว – แฟนสาว ไปขายให้กับแก๊ง เอาท์ลอว์ ที่เขมร พ่อแม่เชื่อ ลูกถูกจัดฉาก ให้ตกเป็นผู้ร่วมขบวนการสังหารโหด

326
0
แบ่งปัน

ความคืบหน้าคดี อุ้มฆ่าหั่นศพ นายฮันส์ ปีเตอร์ แรลเตอร์ มัค ( MR.HANS PETER RALTER MACK ) อายุ 62 ปี นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ชาวเยอรมัน

ซึ่งหลังจากตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี ได้ทำการจับกุม นาย ชาฮ์รูค คารีม อุดดิน อายุ 27 ปี สัญชาติ ไทย เชื้อชาติปากีสถาน 1 ในผู้ต้องหา ที่ถูกออกหมายจับ ร่วมกันฆ่าและปิดบังซ่อนเร้นอำพรางศพ นายฮันส์ ปีเตอร์ มุค นักธุรกิจชาวเยอรมัน โดยได้นั่งแท็กซี่  ไปเปิดห้องพัก ในโรงแรมแห่งหนึ่ง เพื่อซ่อนตัว ในเขตจังหวัดกาญจนบุรี ก่อนที่ทางโรงแรม จะแจ้งเบาะแสไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนเป็นที่มาของการจับกุมตัวได้ดังกล่าว ภายหลังการถูกจับกุม ผู้ต้องหา ได้ร้องขอทนายและติดต่อญาติ ก่อนที่ตำรวจจะมีการบันทึกจับกุม ลงบันทึกประจำวัน และส่งมอบตัวผู้ต้องหาให้ดำเนินคดีต่อที่ สภ.หนองปรือ จ.ชลบุรี

ต่อมา เมื่อเวลา 23.50 น. ( 12 ก.ค.66 )  พ.ต.อ.ศานติ กรเกษม ผกก.กก.สส.ภ.จว.ชลบุรี พร้อมกับตำรวจชุดสืบสวนจังหวัดชลบุรี ได้คุมตัว นาย ชาฮ์รูค คารีม อุดดิน อายุ 27 ปี สัญชาติ ไทย เชื้อชาติปากีสถาน เดินทางกลับมาดำเนินคดีที่ สภ.หนองปรือ ก่อนจะมีลงบันทึกประจำวัน แล้ว นำตัวเข้าห้องขังทันที ระหว่างนำตัวลงจากรถ นักข่าวพยายามถามว่า ได้ลงมือก่อเหตุจริงหรือไม่ แล้วทำไมถึงทำ และ เรื่องถูกขมขู่ จับแฟนสาวไว้เป็นตัวประกันจริงหรือไม่ ซึ่งนายซาฮ์รูค ตอบกลับเพียงว่า “เดี๋ยวก่อนนะครับ เดี๋ยวค่อยให้การทีเดียว” ในน้ำเสียงสั่นคลอ และ สีหน้าเคร่งเครียดตลอดเวลา ก่อนจะถูกนำตัวเข้าห้องขังทันที โดยถูกห้องขังถัดไป ต่อจากห้องขัง ของ นายโอลาฟ ธรอสเทน บริงก์มันน์ ระหว่างนั้นยังพบว่า มี พ่อ แม่ และ พี่ชาย ของ นายชาฮ์รูค เดินทางมาร่วมสังเกตการณ์ด้วย พร้อมทั้งร้องขอ ตำรวจ ขอเห็นหน้าลูกชาย ก่อนเข้าห้องควบคุมขัง หลังจากมีการพบหน้ากันแล้ว  ทั้งพ่อและแม่ ของนายชาฮ์รูค มีสวมกอดร่ำไห้เสียหาย เมื่อเห็นลูกชายตกอยู่ในสภาพดังกล่าว

ด้านพ่อแม่ ของ นายชาฮ์รูค คือ นายซาบาส อายุ 52 ปี และ นางแพค อายุ 56 ปี เจ้าของธุรกิจนำเข้า อาหารทะเล พื้นที่ จังหวัดภูเก็ต เล่าให้ฟังทั้งน้ำตาว่า รู้จักกับผู้หญิงคนอ้วนๆ ก็คือ นาง เพทรา คริสเติล กรุนด์กริฟ อายุ 54 ปี นายหน้าซื้อขายที่ดิน ชาวเยอรมัน  โดยย้อนไปเมื่อ 2 ปี นางเพทรา ได้มาติดต่อร่วมทำธุรกิจอาหารทะเล โดยขอให้ส่งของ มาขายในพื้นที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี แต่พอมีการเจรจาพูดคุย เริ่มเห็นว่า นางเพทรา ไม่ค่อยโอเค และ ไม่ค่อยมีความน่าเชื่อถือ ในเรื่องการร่วมทำธุรกิจ เนื่องจาก นางเพทรา ให้ทางเรา สั่งซื้อของเข้ามาก่อน โดยจะจ่ายเงินให้ภายหลัง ทำให้การเจรจาในครั้งนั้นล่มลงไป จากนั้นก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย แต่ก็มาทราบภายหลังว่า ลูกชาย ยังติดต่อ กับ นางเพทรา อยู่ ในเรื่องร่วมกันทำธุรกิจ นายหน้าที่ดิน พยายามห้ามลูกชายแล้ว แต่ก็ไม่ยอมฟัง คอยถามลูกว่า เคยได้เงินหรือป่าว ลูกชายก็บอกว่า เคย 1 ครั้ง เรื่องที่ดินในภูเก็ต จากนั้นทางครอบครัวก็ไม่ได้สนใจ จนกระทั่งมาทราบข่าว ว่าลูกชาย ตกเป็นผู้ต้องหาฆ่าหั่นศพดังกล่าว

ผู้เป็นแม่ ยังเล่าให้ฟังอีกว่า ถ้าลูกทำผิดแม่จะไม่เข้าข้าง โดยปกติแล้ว นายชาฮ์รูค จะไม่โกหกแม่ หากเรื่องไหนจะไม่ทำให้แม่ลำบากใจ ก็จะพูดทั้งหมด แต่ในครั้งนี้ได้คุยกับลูก ขณะถูกตำรวจเข้าจับกุมตัวที่ จังหวัดกาญจนบุรี ลูกชายร้องไห้หนักมาก แล้วบอกว่า “ผมสาบานๆ ผมไม่ได้ทำ ผมไม่รู้เรื่องอะไรเลย ผมโดนข่มขู่ ผมเป็นห่วงน้องสาว ผมห่วงเมียผม มันขู่จะลักพาตัวไปที่เขมร” โดยมีนายโอลาฟ เป็นคนขู่ หากไม่ทำตาม อีกทั้ง นายโอลาฟ รู้ว่า เมียของ นายชาฮ์รูค อยู่ที่ไหน อีกทั้งเชื่อว่า ลูกถูกบังคับให้ทำ และ ถ้าหากทำจริง ก็ยังเชื่อว่าเป็นไปไม่ได้ โดยอาจถูกจัดฉากให้เข้ามาเกี่ยวข้องกับคดีนี้ โดยตอนแรกที่เห็นภาพข่าว คนร้ายนั่งเกาะตู้แช่แข็งอยู่ท้าย รถกระบะ ตนพยายามเอาภาพไปให้ทุกคนในครอบครัวดู แต่ก็ไม่มีใจ จนมาเห็นลูกถูกออกหมายจับ รู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก   

นายชาฮ์ลี อายุ 30 ปี พี่ชาย ของ นาย ชาฮ์รูค คารีม อุดดิน เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ได้มีโอกาสพูดคุยกับน้องชาย ในช่วงเวลาสั้นๆ ทางโทรศัพท์ อีกทั้งโดยปกติแล้ว น้องชายจะไม่เคยร้องไห้ ให้ได้ยิน แต่ครั้งนี้ ร้องไห้ หนักมาก โดยว่า “ผมกลัว ผมถูกโอลาฟขู่ฆ่า และ จะมีการลักพาตัว แฟนสาว และ น้องสาวแฟน ไปขายกับแก๊งค์ของมันที่เขมร” ส่วนรายละเอียดมากกว่านี้ ขอพูดคุยกับ น้องชายอีกครั้ง โดยเชื่อว่า จากที่น้องชาย พูดเชื่อว่า น้องถูกหลอกให้มาก่อเหตุในครั้งนี้ และ กล้าที่จะพูดว่า น้องชาย ไม่มีนิสัยแบบนี้ ซึ่งเพื่อนในกลุ่ม ที่ จ.ภูเก็ต จะรู้กันดีว่า นายชาฮ์รูด เป็นคนจิตใจดี แต่แค่ชอบในรอยสัก และ ชอบขับขี่รถจักรยานยนต์ บิ๊กไบค์ โดยกลุ่ม ชื่อว่า “81” และยังเชื่อว่าน้องชาย ไม่ใช่คนฆ่า ส่วนน้องสาวและแฟนสาว ของน้องชาย ยังคงปลอดภัยดี…..