หน้าแรก ข่าวประชาสัมพันธ์ นำวงจรปิดร้องสื่อลูกตายมา1ปีคดีไม่คืบแถมคนชนสับเปลี่ยนคนขับอีก

นำวงจรปิดร้องสื่อลูกตายมา1ปีคดีไม่คืบแถมคนชนสับเปลี่ยนคนขับอีก

615
0
แบ่งปัน
 
                วันนี้ ( 17 ก.ค. 66  ) ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 78 หมู่8 ซ.สุขสมบูรณ์5/7 ต.หนองปลาไหล อ.บางละมุงจ.ชลบุรี  พบกับนายอภิสิทธิ์ แหยมบัว อายุ 43 ปี  หลังต้องการความชัดเจนในคดีหลัง นางสาวชญานิศ  แหยมบัว อายุ 19 ปี ลูกสาวขับรถ จยย. ชนกับรถกระบะ เรื่องก็เลยมา 1 ปีแล้ว   ส่วนคู่กรณีรถกระบะถูกดำเนินคดีแจ้งความเท็จ  แต่คนขับตัวจริงไม่โดนลงโทษอะไรเลย   ส่วนคดีลูกสาวก็เงียบไปหลังคู่กรณีเคยเจรจาจ่ายเงินถึง 2 ครั้งก็เงียบหาย

                 นายอภิสิทธิ์ แหยมบัว เล่าเหตุการณ์ว่า เรื่องดังกล่าวเหตุเกิดวันที่ 12 ก.พ. 65  เวลาประมาณ 03.15 น. บริเวณแยกสาย 3 ตัดพัทยากลาง  โดยติดใจตั้งแต่วันแรกเพราะเพื่อนลูกสาวบอกว่าผู้ชายเป็นคนขับ  โดยบันทึกลงไปว่าเป็นชื่อของผู้หญิง  อายุ 54 ปี และเป่าแอลกอฮอล์เป็น 0   โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่มีการสอบถามและติดตามทั้งๆที่เพื่อนลูกสาวบอกคนขับเป็นผู้ชาย 

                นายอภิสิทธิ์ แหยมบัว เล่าต่อว่า นอกจากไปหาสารวัตรเจ้าของคดีแล้ว ทางสารวัตรให้ตนเองไปหาหลักฐานพยานมา  จนผมเอาคลิปวงจรปิดของเมืองพัทยาไปให้สารวัตร  สารวัตรจึงได้เรียกคู่กรณีมาแจ้งข้อกล่าวหา แจ้งความเท็จ จนขึ้นศาลจังหวัดพัทยาเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 66 ที่ผ่านมา

                ส่วนด้านคดีนั้นตำรวจยังไม่มีการชี้ว่าใครผิดใครถูกเลย  แต่ประมาณเดือนธันวาคม  2565  คู่กรณีมีการพูดคุยตกลงต่อหน้าสารวัตรเจ้าของคดี   โดยคู่กรณีบอกจะให้เดือนละ 3,000 บาท เป็นเวลา 2 ปี  ผมยังไม่ได้ตอบตกลง   มาอีกประมาณ 1 อาทิตย์  สารวัตรโทรศัพท์มาบอกว่าทางคู่กรณีจะจ่ายให้ 150,000 บาท  จะเอาไหม  ผมบอกยังไม่โอเค  ทางคู่กรณีก็หายไปเลยจนถึงทุกวันนี้  

                นายอภิสิทธิ์ แหยมบัว พูดเพิ่มเติมว่า ตนเองติดใจตั้งแต่วันแรกทราบว่าผู้ชายเป็นคนขับ  แต่ไม่มีการติดตามคนขับตัวจริงว่าเป็นใคร จนปล่อยเลยมาข้ามปีจนมาดำเนินคดีในข้อหาแจ้งความเท็จ  และยังไม่มีการดำเนินคดีกับคนขับรถจริงเลยจนปัจจุบันเรื่องยังไม่ไปถึงไหนเลย  ซึ่งจริงๆแล้วถ้าวันเกิดเหตุเขายอมรับถึงเมาหรือไม่เมาก็ขึ้นอยู่กับสารวัตร  ซึ่งการเปลี่ยนตัวนั้นเขาแสดงเจตนาหลบหนีเลย  ซึ่งถ้าเขาถูกจริงทำไมต้องหลบหนี 

                นายอภิสิทธิ์ แหยมบัว ยังเปิดเผยอีกว่า  เรื่องดังกล่าวตนเองยังเสียเงินให้กับทนายความเป็นจำนวนเงิน 35,000 บาท  แต่ทนายคนดังกล่าวไม่ได้ทำอะไรให้เลย และติดต่อไม่ได้อีก   ส่วนด้านคดีก็อยากให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจออกมาชี้ชัดเลยเกี่ยวกับคดีว่าใครผิดใครถูกรวมทั้งคนขับจริงยังไม่มีการดำเนินคดีอะไรเลย 


                ส่วนภาพวงจรปิดแสดงให้เห็นว่าเมื่อรถชนกันแล้ว  ทางรถกระบะมีผู้ชายลงมาทางด้านคนขับ  ก่อนหายไป แล้วมีผู้หญิงมาเอาเอกสารทางด้านฝั่งซ้ายรถก่อนเดินไปนั่งภายในรถตรงที่คนขับจนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจมา  จึงลงมาจากรถ