หน้าแรก ข่าวประชาสัมพันธ์ หนุ่มวอนช่วยหาทางออกหลังรถชนเข้าอู่ซ่อมรถถูกชำแหละแถมไฟแนนท์ตามทวงเงินส่วน เจ้าของอู่ซ่อม7ปีไม่เคยมาติดต่อ

หนุ่มวอนช่วยหาทางออกหลังรถชนเข้าอู่ซ่อมรถถูกชำแหละแถมไฟแนนท์ตามทวงเงินส่วน เจ้าของอู่ซ่อม7ปีไม่เคยมาติดต่อ

550
0
แบ่งปัน

ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก นายธนวัฒน์ ลิ้มมณี อายุ 44 ปี อาชีพช่างซ่อมอิสระ  โดยนำภาพรถยนต์ที่เหลือแต่ซากหลังนำเข้าอู่เพื่อซ่อมแซม  แถมถูกไฟแนนท์ตามทวงค่าผ่อนรถเช้าเย็น  จนทำแฟนสาวเครียดบางครั้งคิดสั้นฆ่าตัวตาย  ส่วนภาพที่นำมาให้ผู้สื่อข่าวดู เป็นภาพรถยนต์เก่งจอดเหลือแต่ซากจอดทิ้งด้านหลังอู่  

            นายธนวัฒน์ เล่าว่า เราเช่าซื้อรถจากกรุงศรีจีอี แล้วเกิดอุบัติเหตุและเราพึ่งมาทราบตอนเกิดอุบัติเหตุว่าทางเต้นท์รถที่เรา ทำประกันอุบัติเหตุให้เราเป็นประเภท 2 เราจึงต้องซ่อมรถเราเอง เราจึงไปติดต่ออู่ซ่อมรถอู่หนึ่งในพัทยา โดยวันนั้นเกิดเหตุขึ้นเมื่อ 7 ปี ที่แล้ว ทางช่างซ่อมได้ตีราคาค่าซ่อมประมาณ 30,000 บาท เราก็ต้องตกลงให้รถยกลากเข้าซ่อม แต่พอถึงอู่ซ่อมช่างโทรศัพท์กลับมาว่าค่าซ่อมเป็น 50,000 บาท เราจึงบอกกลับไปว่าถ้า 50,000 บาท เราไม่ซ่อมให้ลากกลับไปไว้ที่ สภ.หนองปรือ แต่ทางอู่ไม่ทำตาม แต่กลับเอารถเราไปแยกอะไหล่ขาย  ซึ่งระยะเวลาที่ผ่านมาก็ติดตามแต่ทางอู่ไม่ให้เราเข้าไปบอกเป็นสถานที่ส่วนบุคคล ซึ่งเราพยายามบอกแต่ก็ไม่เห็นรถเรา

          เบื้องต้นเราเพียงได้แค่ลงบันทึกประจำวันไว้ทางตำรวจบอกว่าเราต้องไปขอใบมอบอำนาจจากไฟแนนท์มาก่อน  เราก็ติดต่อไปแต่ทางบริษัทโยนให้เราไปคุยกับฝ่ายกฏหมาย ซึ่งทางฝ่ายกฏหมายต้องให้เราจ่ายเงินเพื่อปิดบัญชีกู้จึงจะดำเนินการให้ ซึ่งผมมองว่าไม่เป็นธรรมเพราะเราก็เป็นผู้เสียหาย ผู้ถูกกระทำเหมือนกัน ซึ่งตอนนี้เดือดร้อนมากเพราะทางบริษัทฝ่ายกฏหมายโทรศัพท์มาหาแฟนเช้าเย็น จนแฟนผมคิดมากจนอยากจะฆ่าตัวตาย

          นายธนวัฒน์กล่าวเพิ่มเติมว่า ตอนนี้ถ้าเป็นไปได้อยากให้ทนายใครก็ได้เข้ามาช่วยในคดีนี้ โดยให้คดีเดินไปในแนวทางที่ถูกต้อง ใครกระทำผิดก็ต้องชดใช้ ไม่ใช้ให้ผมมาเป็นแพะรับใช้ ทั้งๆที่เอารถผมไปชำแหละขาย

           นอกจากนั้นหลังได้รับการร้องเรียนจากนายธนวัฒน์ ลิ้มมณีแล้ว ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังอู่ซ่อมรถที่ถูกอ้างถึง โดยพบกับนายธนะเดช พูนปัญญาผล อายุ 47 ปี เจ้าของอู่และได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวถึงเรื่องราวดังกล่าว

           นายธนะเดช เปิดเผยว่า เรื่องดังกล่าวประมาณ 7 ปี คราวๆนะเพราะรายละเอียดมันไม่ได้เพราะนานมาแล้ว โดยมีรถยกติดต่อเข้ามาจะมีรถเข้ามาซ่อม โดยมีคนที่ติดต่อมาเป็นผู้ชายที่ไม่ใช่เจ้าของหลังจากนั้นก็หายเงียบไปเลย  เราก็ได้ให้ตำรวจที่ สภ.นาจอมเทียนเช็คก็ปรากฏเป็นชื่อผู้หญิงเราก็พยายามติดต่อก็ติดต่อไม่ได้ ตอนแรกจะยกไปไว้ที่ สภ.นาจอมเทียน แต่ไม่สามารถยกไปไว้ได้ ซึ่งโดยทั่วไปไม่ติดต่อเป็นระยะเวลานาน 3 ปี รถมันคงไม่อยู่แล้ว  ซึ่งเราก็พยายามติดต่อแต่ติดต่อไม่ได้ โดยทั่วไปก็ถือว่าทิ้งรถแล้วเพราะมีเยอะที่มาจอดรอซ่อมแล้วทิ้งเลย

          นายธนะเดช ยังบอกต่ออีกว่า รถยนต์คันนี้บริษัทไฟแนนท์ได้มาดูแล้วและได้ถ่ายรูป ก่อนเช็คว่าตรงกันกับบริษัทไฟแนนท์ ไฟแนนท์บอกว่าทิ้งเลยเดียวผมไปฟ้องเอา  ซึ่งทางผมก็พยายามติดต่อมาตลอดแต่ติดต่อไม่ได้ จนไฟแนนท์มาพบ แล้วก็บอกผมว่าทิ้งรถให้ผม