หน้าแรก ข่าวประชาสัมพันธ์ ฉาวอีก พนักงานอะโกโก้ พร้อมพวก รุมชกนทท.อังกฤษเจ็บ แนะเพิ่มโทษผู้กระทำผิด

ฉาวอีก พนักงานอะโกโก้ พร้อมพวก รุมชกนทท.อังกฤษเจ็บ แนะเพิ่มโทษผู้กระทำผิด

82
0
แบ่งปัน

เมื่อเวลา 03.00 น.วันที่ 19 พฤศจิกายน 2566 ร.ต.อ.เชาวลิตร สุวรรณมณี รองสวป.สภ.เมืองพัทยา รับแจ้งเหตุ ทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดภายในซอย แอลเคเมโทร บัวขาวพัทยาใต้ ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงรายงานผู้บังคับบัญชา พ.ต.อ.ฐนพงศ์ โพธิ์ทิ ผกก.สภ.เมืองพัทยา หลับรับแจ้งจึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยารีบไปตรวจสอบ


ที่เกิดเหตุพบนักท่องเที่ยวอยู่ในอาการแตกตื่นตกใจ มีนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ ทราบชื่อคือMR.JACK DANIEL FITZMAURICE อายุ 28 ปีสัญชาติอังกฤษ อยู่ในอาการบาดเจ็บ ปากแตก เลือดกำเดาไหล ถลอกตามร่างกาย มีเลือดไหลเลอะเสื้อผ้า อีกรายเป็นแฟนสาวทราบชื่อคือน.ส.สุนารี ตุ้งประโคน อายุ 35 ปี มีบาดแผล ปากแตก ปูดบวมที่ใบหน้า อยู่ในอาการหวาดกลัว ไม่กล้าเข้าแจ้งความร้องทุกข์ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแนะนำให้เดินทางเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีกับคนผิด ทั้งสองจึงยอมเดินทางโดยขึ้นรถของเจ้าหน้าที่ไป


สอบถามผู้บาดเจ็บน.ส.สุนารี ทราบว่ามีปากเสียงกับผู้หญิงในร้าน จนถึงขั้นลงไม้ลงมือกัน ตนเองจึงโทรเรียกสามีชาวต่างชาติมาช่วย แต่ก็เกิดเหตุการชุลมุนขึ้นอีก โดยมีกลุ่มคนนับสิบคน รุมชก รุมเตะ จนแฟนหนุ่มและตนเองได้รับบาดเจ็บ แต่ก็ไม่อยากพูดมากไปกว่านี้ เพราะไม่อยากมีปัญหากับกลุ่มคนเหล่านี้ เกรงว่าจะได้รับอันตราย


ด้านผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ตอนแรกเป็นเรื่องระหว่างผู้หญิงกับผู้หญิง คือผู้บาดเจ็บกับพนักงานอะโกโก้ โดยฝ่ายผู้บาดเจ็บเป็นฝ่ายเริ่มก่อน กระทั่งผู้หญิงเรียกชาวต่างชาติเข้ามาช่วย จนเกิดชุลมุนกัน ทำให้พนักงานในร้านอะโกโก้ดังกล่าว ไม่พอใจพากันกรูเข้ามาช่วย บางคนห้าม แต่บางคนกลับลงมือทำร้ายด้วย จนต่างชาติได้รับบาดเจ็บ และทำให้ป้ายร้านข้างเคียงได้รับความเสียหายด้วย นอกจากนี้บางรายยังเล่าอีกว่าผู้บาดเจ็บพยายามวิ่งหนีแล้ว แต่กลุ่มผู้ก่อเหตุยังคงวิ่งไล่ทำร้าย โดยไม่แคร์สายตานักท่องเที่ยวที่อยู่ในบริเวณนั้น รวมไปถึงไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมืองแม้แต่น้อย
เบื้องต้นผู้บาดเจ็บทั้งสองรายเดินทางเข้าให้ปากคำกับ ร.ต.อ.ณัชพล แสงสี รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองพัทยา พร้อมทั้งสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ลงพื้นที่หาเบาะแส จากพยานแวดล้อม กล้องวงจรปิด ในการติดตามตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุทั้งหมดมา สอบปากคำเพื่อความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย ก่อนจะดำเนินคดีตามกระบวนการทางกฎหมาย


อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นการทำลายภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของเมืองพัทยาเป็นอย่างมาก ทั้งที่ทางภาครัฐ มีนโยบายขยายเวลาให้เปิดได้ 04.00 น. เพื่อผลักดันระบบเศรษฐิจให้ดีขึ้น แต่กลับเกิดเหตุการความรุนแรงเช่นนี้ขึ้น จึงอยากฝากให้เจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบ รวมถึงเพิ่มบทลงโทษกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ทั้งพนักงานรวมถึงร้าน ที่เกิดเหตุด้วย