หน้าแรก ข่าวอาชญากรรม ตำรวจพบเบาะแสสำคัญฆ่าเผานั่งยางคาดว่าเชื่อมโยงเหตุแทงกันพื้นที่ห้วยใหญ่

ตำรวจพบเบาะแสสำคัญฆ่าเผานั่งยางคาดว่าเชื่อมโยงเหตุแทงกันพื้นที่ห้วยใหญ่

207
0
แบ่งปัน

       จากกรณี ตำรวจ สภ.หนองปรือ ไปพบศพถูกเผานั่งยาง ในป่าทางขึ้นเขา วัดถ้ำประทุน หมู่ 8 ต.โป่ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โดยศพเป็นผู้ชาย สัดส่วนความสูงประมาณ 165-170 ซม. ถูกเผาร่างด้วยยางรถยนต์จำนวน 4 เส้น จนไหม้เกรียมทั้งร่าง​  และได้ตรวจสอบสภาพของศพ โดยศพถูกไฟไหม้ร่างไปประมาณ 40 เปอร์เซ็น มีบาดแผลคล้ายถูกฟันด้วยของมีคมเข้าที่หน้าอกข้างซ้าย ในตัวศพ บริเวณกระเป๋ากางเกงด้านหลัง พบบัตรประชาชน  ระบุชื่อ นายธนาธิป แวดไธสง อายุ 31 ปี ที่อยู่ตามบัตร เลขที่ 151 ม.5 ต.หนองใหญ่ อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ ส่วนล้อยางที่นำมาเผา พบว่ามีทั้ง 4 เส้น ถูกเผาจนเหลือแต่ ขดลวดเหล็กทั้ง 4 เส้น อีกทัังยังพบว่า ยางล้อรถมีขนาดเล็ก เหมือนกับยางล้อรถเก๋ง ตำรวจจึงยึดไว้เป็นหลักฐาน ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

         คืบหน้าล่าสุดวันนี้​ ( 14  ม.ค.​)​ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผย​จาก​ พ.ต.อ.​ทวี​  กุดแถลง​ ผกก.สภ.หนองปรือ​  ว่าหลังทาง​ลงตรวจสอบที่เกิดเหตุกับทาง พ.ต.ท.จีระศักดิ์​  แอบแฝง​ สว.สอบสวน​ เจ้าของคดี​ และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน​จังหวัดชลบุรี​ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน​ สภ.หนองปรือ​ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจนพบบัตรประชาชน​ในตัวผู้เสียชีวิต​ ซึ่งในเบื้องต้นได้เรียก​ นางสาวรัตติญา  ยางสูงเนิน​ อายุ​ 23 ปี​ แฟนผู้เสียชีวิตมาสอบปสกคำเกี่ยวกับรสยละเอียดต่างๆของตัวผู้ตาย​ และรายละเอียดเกี่ยวกับปมต่างๆที่ผู้ตายมี  ซึ่งในเบื้องต้นทราบว่าผู้ตายมีอาชีพขับรถ​Grad / Bolt  และรถยนต์เก๋งโตโยต้ายารีส สีขาวของผู้ตายหายไป​

        ส่วนด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจเจ้าชุดสืบสวนกำลังลงพื้นที่บริเวณทุ่งกลม-ตาลหมัน​ 10 เพื่อตรวจสอบกล้องวงจรปิด​เพื่อหาจุดเชื่อมโยงหลังพบว่าช่วงคืนวันที่​ 13 ม.ค.​ เวลาประมาณ​  04.00 น.​ มีเหตุแทงกันภายในซอยดังกล่าว​ โดยสอดคล้องที่ศพผู้เสียชีวิตมีร่องรอยโดนของมีคมบริเวณอกซ้าย​ และตรงจุดเกิดเหตุภายในซอยยังพบด้ามมีดสีดำตก​อยู่​ รวมถึงรถยนต์โตโยต้ายารีสสีขาวของผู้ตายหายไป​

          ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ภายในซอยทุ่งกลม-ตาลหมัน​ 10 จุดเกิดเหตุแทงกันยังพบคราบเลือดจำนวนมากยังติดกับถนน​ และพบกับป้ารุ่งทิวา​ อักษร​ อายุ​ 62  ปี​  เล่าว่า​ คืนวันที่​ 13 ม.ค.​ เวลา​ประมาณ​ 04.00 น.​ มีคนทะเลาะกันและเสียงขอความช่วยเหลือ​ แต่ตนเองไม่ได้ออกมาดู แต่ลุงทุย​ มะลิ​มัย​  อายุ​ 58 ปี​แฟนป้าออกมาดูพบว่ามีคนร้ายเป็นชาย​ 1 หญิงรูปร่างใหญ่​ 1 คน​ รุมทำร้ายผู้ชาย​ แต่ผู้หญิงเป็นคนใช้มีดแทง​ และมีรถยนต์เด๋งสีขาว  ก่อนคนร้ายทั้ง​ 2 คน​นำคนเจ็บขึ้นรถแล้วออกจากจุดเกิดเหตุไป​

    โดยนายทุย อายุ 53 ปี (เบลอหน้า) เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อช่วงเช้ามืดวันที่ 12 มกราคม ที่ผ่านมา ขณะที่ตนเองนอนอยู่ในที่พัก สังเกตเห็นรถยนต์เก๋งสีขาว ไม่ทราบรุ่น หมายเลขทะเบียน มาจอดแล้วมีเสียงคนทะเลาะวิวาทกันอย่างรุ่นแรง และร้องขอความช่วยเหลือ ตนเองแอบมองจึงเห็นภาพ ขณะที่ผู้ก่อเหตุ ไม่ทราบว่าเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงรูปร่างใหญ่ ใช้มีดกระหน่ำแทงผู้ชายรูปร่างท้วมแต่ตัวดี จนทรุดลงจมกองเลือด พยายามกระเสือกกระสนหนีตายเอาชีวิตรอด แต่ผู้ก่อเหตุนั้นยังไม่ลามือ เดินตามเข้าไปแทงซ้ำอย่างอำมหิต แล้วลากเอาร่างโชกเลือดมาขึ้นรถ แล้วรีบขับหลบหนีไปตามเส้นขอบอ่างชากนอก

    หลังจากเหตุการณ์สงบลงตนเองออกมาตรวจสอบพบเพียงกองเลือดไหลนองเต็มพื้นถนน และมีดปลอกผลไม้ยาวประมาณ 15-20 เซ็นติเมตรตกอยู่ จึงเขี่ยเข้าข้างทาง กระทั่งผ่านไปประมาณ 30 นาที รถเก๋งคันเดียวกันก็วนกลับมาอีกครั้ง มาเดินหาอะไรบางอย่างในที่เกิดเหตุ แต่เมื่อกลุ่มคนเหล่านั้นสังเกตเห็นว่ามีคนอาศัยอยู่ในบริเวณนั้นจึงรีบพากันขึ้นรถหลบหนีไป ซึ่งผู้ก่อเหตุนั้นที่สังเกตได้มี 2 คน เป็นผู้ชายแต่งกายดี รูปร่างสูงขาว ทำหน้าที่ขับรถ ส่วนผู้ก่อเหตุนั้นรูปร่างใหญ่ ไม่มั่นใจว่าเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง

     ซึ่งหลังเกิดเหตุได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ห้วยใหญ่มาตรวจสอบแล้ว แต่ว่าไม่พบตัวผู้บาดเจ็บ ส่วนตนเองรู้สึกกลัวมาก จนไม่กล้าที่จะอยู่บ้าน ต้องคอยหลบเวลามีคนมาด่อมๆมองๆที่หน้าบ้าน กระทั่งช่วงค่ำวานนี้ 13 ม.ค. มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาสอบถามถึงเห็นการณ์ที่ตนเองเห็น เนื่องจากมีศพผู้ชายถูกฆาตกรรมแล้วนำมาเผาอำพรางในพื้นที่ ต.โป่ง เขตรับผิดชอบของสภ.หนองปรือ

     เบื้องต้นทีมสืบสวนทั้งสืบสวนภูธรภาค 2 สืบสวนจังหวัดชลบุรี สืบสวนสภ.หนองปรือ เร่งหาหลักฐานเชื่อมโยงของทั้งสองคดีนี้ เนื่องจากผลการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์ พบว่าผู้ตายที่ถูกเผานั่งยางนั้น มีบาดแผลถูกแทงหลายจุด และเวลาการเสียชีวิตใกล้เคียงกัน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการหาเบาะแสจากพยานแวดล้อม และกล้องวงจรปิด เพื่อคลี่คลายคดีสะเทือนขวัญนี้ต่อไป