จากกรกรณีเมื่อวันที่ 6 พ.ค. 66 ตำรวจศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ศปอส.) ตำรวจ ตม.จ.ชลบุรี และ ตำรวจท่องเที่ยวพัทยา เข้าจับแก๊งค์ชาวจีนหลอกขายวัตถุมงคลให้กับนักท่องเที่ยวในราคาสูง โดยสามารถจับกุมชาวจีนได้ทั้งหมด 12 คน สถานที่จับกุมภายในวันเขาชีจรรย์ ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันนี้ ( 11 มิ.ย.66 ) พ.ต.อ.เขมรินทร์ พิศมัย ผกก. ตม.จ.จันทบุรี , ชุดทำงานสืบสวน ตร. พร้อมด้วย พ.ต.ท.สุวิจักขณ์ เรืองนวมดี รอง ผกก. สส. สภ.สัตหีบ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน จ.ชลบุรี ตำรวจ ตม. ตำรวจ ทท. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สัตหีบ นำหมายค้นศาลจังหวัดพัทยาเข้าค้นจำนวน 2 จุด เพื่อหาหลักฐานต่างๆซึ่งเป็นเส้นทางการเงินที่เชื่อมโยงกับแก๊งค์ชาวจีนที่หลอกขายวัตถุมงคลราคาสูงให้กับนักท่องเที่ยวชาวจีน หลังจากสามารถออกหมายจับชาวจนจำนวน 2 คน Mr.Weiye Zheng อายุ 42 ปี และ Mr. Hang zhang อายุ 26 ปี ในข้อหาฉ้อโกงประชาชน
โดยจุดแรกเข้าค้นที่ร้านอาหารไทยจีน เจือ เจีย ตั้งอยู่บนถนนพัทยานาเกลือ ม.5 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี พบพนักงานจำนวน 10 คน เป็นคนไทยจำนวน 4 คน คนสัญชาติพม่าจำนวน 4 คน และคนสัญชาติจีน จำนวน 2 คน เบื้องต้นคนงานสัญชาติ พม่าผิดเกี่ยวกับนายจ้างจำนวน 2 คน นอกจากนั้นยังตรวจยึดหลักฐานต่างๆภายในร้านไปตรวจสอบ อาทิ เครื่องรูดบัตรเครติด เอกสารๆที่พบในร้านไปตรวจสอบหาความผิดและความเชื่อมโยงกับชาวจีนทั้ง 2 ที่ออกหมายจับ
จุดที่สองเข้าค้นที่บ้านเลขที่ 138/88 ม.พัทยาฮิลล์วิลเลจ 2 ซ.เขาน้อย ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นบ้านพักอาศัยของชาวจีนที่ถูกออกหมายจับ แต่ไม่พบชาวจีนที่ถูกออกหมายจับ พบเพียงชาวจีนเป็นผู้หญิงจำนวน 2 คน และเด็ก 1 คน โดยชาวจีนอ้างว่าเป็นผู้เช่าบ้านหลังดังกล่าว และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับชาวจีนที่ถูกออกหมายจับทั้ง 2 คน ซึ่งในเบื้องต้นไม่พบหลักฐานอะไรที่เกี่ยวข้องกับชาวจีนที่ออกหมายจับ
ด้าน พ.ต.อ.เขมรินทร์ พิศมัย ผกก. ตม.จ.จันทบุรี , ชุดทำงานสืบสวน ตร. เปิดเผยว่า จากการจับกุมของชุดสืบสวน จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 6 พ.ค. ก็ประมาณเดือนหนึ่ง และสามารถจับกุมคนจีนจำนวน 12 คน ที่เข้ามาในฐานะนักท่องเที่ยวและมาประมาณอาชีพขายพระขายวัตถุมงคล ในบริเวณวัดเขาชีจรรย์ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี และพบหลักฐานต่างๆ จึงเข้ามาค้นในวันนี้ 2 จุด จุดนี้เป็นบ้านที่เกี่ยวข้องกับชาวจันที่ถูกออกหมายจับ อีกจุดเป็นร้านอาหารซึ่งคนจีนที่ถูกออกหมายจับเป็นเจ้าของ ส่วนที่จำหน่ายวัตถุมงคลภายในวัดเขาชีจรรย์ ได้นำเครื่องรูดบัตรเครดิตที่ธนาคารออกให้กับร้านอาหารนำไปรูดบัตรเพื่อชำระค่าเช่าวัตถุมงคล นอกจากนั้นทางชาวจีนที่ทำธุรกรรมกับทางวัดทั้งเอกสารยังมีข้อสงสัย คล้ายนิติกรรมอำพรางซึ่งเรามีหลักฐานก็ต้องสืบสวนขยายผลต่อไป
ส่วนการที่ชาวจีนมาดำเนินกิจการจำหน่ายวัตถุมงคลตามวัดนั้นจะมีคนไทยเป็นคนกลางเป็นนอมินีให้ ซึ่งในปัจจุบันมีพยายามตัดตอนและชาวจีนมีความระมัดระวังรอบครอบมากขึ้นด้วย ซึ่งจะมีคนไทยเข้าไปดำเนินการทางนิติกรรมแทนคนจีน ซึ่งเรามีพยานหลักว่ามีชาวจีนเป็นผู้รับผลประโยขน์และเจ้าของกิจการตัวจริงอยู่เบื้องหลัง
ส่วนกรณีทางวัดมีส่วนเกี่ยวข้องไหม ทางพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำเจ้าหน้าที่ของวัดและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นประโยชน์ในแนวทางการสืบสวนอย่างมาก ซึ่งทางพนักงานสอบสวนก็ต้องตรวจสอบหลักฐานสัญญาต่างๆว่าเท็จจริงอย่างไร ซึ่งขอเวลาทางเจ้าหน้าที่ชุดทำงานอีกหน่อยก่อน