จากกรณีคนร้ายก่อเหตุ พยายามข่มขืน และ ชิงทรัพย์ นักท่องเที่ยวชาวจีน
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 14.00 น. ( 20 ก.พ.67 ) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปบริเวณ หน้าสวนไทย พัทยา ริมถนนสาย 331 ( สัตหีบ – นครราชสีมา ) ต. ห้วยใหญ่ อ. บางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นจุดที่ผู้เสียหายได้โบกเรียกรถจักรยานยนต์ และมีการว่าจ้างให้ไปส่ง เข้าพื้นที่เมืองพัทยา ซึ่งจุดดังกล่าวอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 10 กม. โดยพบว่า สวนไทย พัทยา ตั้งอยู่ฝั่งขาเข้า อ.สัตหีบ ไม่ค่อยมีรถจักรยานยนต์วิ่งสัญจรไปมา ซึ่งรถที่ใช้ในการสัญจร ไป-มา ส่วนใหญ่เป็น รถรถยนต์และรถบรรทุก อีกทั้งในย่านดังกล่าว ไม่มีวินรถจักรยานยนต์รับจ้าง ทำให้เชื่อว่าคนร้ายที่ก่อเหตุ ช่วงที่พบเจอผู้เสียหาย อาจจะแสดงตัวเป็นพลเมืองดี อาสาไปส่งผู้เสียหายเดินทางไปยังพื้นที่เมืองพัทยา ก่อนจะพานักท่องเที่ยวชาวจีนไปก่อเหตุ
ขณะที่ผู้สื่อข่าวได้ภาพกล้องวงจรปิดมุมใหม่ ( กล้องช้ากว่า 2 วัน และ เวลาไม่ตรงกับเวลาจริง ) บริเวณใต้สะพานห้วยใหญ่ ซึ่งเป็นจุดบริเวณที่ น้องชาย กับผู้เสียหาย เกิดคลาดกัน โดยคนร้ายมีการเปลี่ยนเส้นทางลอดใต้สะพาน มุ่งหน้าไปยังจุดเกิดเหตุ โดยพบว่าคนร้ายมีพฤติกรรมเจตนา จะพาผู้เสียหายขี่เปลี่ยนเส้นทาง จนไปก่อเหตุดังกล่าว
ส่วนความคืบหน้าของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในเบื้องต้น มีการระดม ชุดสืบสวน กระจายลงพื้นที่หาข่าว พร้อมทั้งติดตามหารถจักรยานยนต์ที่คนร้ายใช้ในการก่อเหตุ โดยเบื้องต้นตำรวจรู้ทะเบียนและยี่ห้อรถแล้ว แต่ยังไม่มีการออกมาเปิดเผยข้อมูล อีกทั้งทะเบียนรถดังกล่าว มีการแจ้งความหายไว้ในพื้นที่ เขาไม้แก้ว สภ.ห้วยใหญ่ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกมาสอบถามข้อมูลแล้วโดยผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปสอบถามข้อมูลแต่ได้ปฏิเสธในการให้สัมภาษณ์ ขณะที่ชุดสืบสวน ภ.จว.ชลบุรี และ สืบสวนภาค 2 ยังคงเดินหน้าตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทาง ที่คาดว่าคนร้ายใช้ในการหลบหนี โดยล่าสุดตำรวจพบว่า คนร้ายขี่หลบหนี มุ่งหน้าไป จ.ระยอง โดยใช้เส้นทางถนนสาย 36 ( กระทิงลาย – ระยอง )
ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามคนร้าย จากทะเบียนรถจยย.ยี่ห้อยาทาฮ่าฟิน สีเทาดำ ทะเบียน2กว-8496 ชลบุรี ที่ใช้ก่อเหตุ ทราบว่าเป็นรถที่ถูกโจรกรรม มาจากโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเขาไม้แก้ว อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งตั้งอยู่บนถนนหลวงสาย331 เมี่อวันที่4ธันวาคม2566 เวลาประมาณ04:30น. โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจตู้ยามเขาไม้แก้ว ได้ลงตรวจสอบพื้นที่ในวันเกิดเหตุไว้ และเจ้าของรถได้ไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานแล้ว
ผู้สี่อข่าวได้ติดต่อสอบถามไปยังผู้เป็นเจ้าของรถจยย.คันที่คนร้ายนำไปก่อเหตุ ซึ่งขอไม่ให้สัมภาษณ์ แต่ได้เล่าเหตุการณ์ว่า ตนเองรู้สึกตกใจ เมื่อมีเจ้าหน้าที่ตำรวจโทรมาหาเมี่อช่วงเช้าของวันนี้ ว่ารถจยย.ของตนที่หายไปนั้น มีคนร้ายนำมาก่อเหตุดังกล่าว ซึ่งตนเองตกใจมาก ตนเองอยากได้รถคีน และยืนยันว่ารถจยย.คันทีัคนร้ายใช้ก่อเหตุนั้น เป็นของตนเองจริง ซึ่งถูกขโมยไปเมี่อวันที่4ธ.ค.2566 หลังจากรถหายไป ก็ไม่คิดว่าคนร้ายจะนำรถไปใช้ในสภาพเดิมทุกอย่าง ไม่มีการถอดเปลื่ยนอุปกรณ์แต่อย่างใด ยังเป็นสีเดิม สภาพเดิม ป้ายทะเบียนเดิมทุกอย่าง และขอให้ตำรวจจับคนร้ายได้
