หน้าแรก ข่าวประชาสัมพันธ์ ทนายณรงค์ พร้อมญาติเหยื่อเม้าน์เทนบี ยื่นหนังสือร้อง DSI ตรวจสอบเส้นทางส่วยข้าราชการในพื้นที่ หลังคดีไม่คืบ  

ทนายณรงค์ พร้อมญาติเหยื่อเม้าน์เทนบี ยื่นหนังสือร้อง DSI ตรวจสอบเส้นทางส่วยข้าราชการในพื้นที่ หลังคดีไม่คืบ  

144
0
แบ่งปัน

เมื่อช่วงเช้าของวันนี้ ( 12 ก.ย. ) ที่ ศูนย์ปฏิบัติคดีพิเศษเขตพื้นที่ 2 กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI)  ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พร้อมด้วย ญาติของเหยื่อผู้เสียชีวิตและผู้ที่ได้รับบาดเจ็บกว่า 20 ครอบครัว จากเหตุการณ์ ไฟไหม้ผับ เม้าน์เทน บี สัตหีบ เดินทางยื่นเรื่องให้ ดีเอสไอ สอบสอนเส้นทางการเงินผลประโยชน์ หรือส่วย กับเจ้าหน้าที่ราชการทุกหน่วยงานในพื้นที่ อ.สัตหีบ หลังคดีไม่มีความคืบหน้า โดยมีพันตรีวิรัตน์ กุลละวณิชย์ และนายทวีศักดิ์ สุขพร้อม พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ เขตพื้นที่ 2 รวบรวมข้อมูลและหลักฐานจากญาติผู้เสียชีวิต และญาติผู้บาดเจ็บ ก่อนจะเรียกเหยื่อที่ได้รับความเสียหายจากร้านเมาท์เท่นบี มาสอบสวนเพิ่มเติมต่อไป 

      ทนายรณรงค์ แก้วเพ็ชร์ เปิดเผยว่า ถึงแม้ตำรวจจะดำเนินคดีกับเสี่ยบี เสี่ยยศ และภรรยาเสี่ยบี รวมถึงช่างไฟที่ถูกดำเนินคดีไปด้วย นั้น ทั้งนี้ทางญาติเหยื่อยังมีข้อสงสัยว่ามีข้าราชการ มีส่วนเกี่ยวข้องเรียกรับผลประโยชน์กับผับเถื่อนแห่งนี้อีกหรือไม่ หวั่นจะเหมือนกับคดี ซานติก้าผับ สุดท้ายจบด้วย ข้าราชการมหาดไทย ตำรวจ ไม่มีใครได้รับผิด ซึ่งคดีของเมาท์เท่นบีจะจบแบบคดี ซานติก้าผับไม่ได้ จึงเดินทางมายื่นเรื่องให้ ดีเอสไอ สอบสวนเส้นทางการเงิน ในการรับผลประโยชน์ของข้าราชการในพื้นที่ เพื่ออำนวยความสะดวก ในการเปิดผับเถื่อนแห่งนี้ อีกทั้งในการสอบสวนของตำรวจ พบว่าสามารถกู้กล้องวงจรวงปิดของผับได้แล้ว คลิปความยาว 30 วินาที ตอนนี้ก็น่าจะสรุปสาเหตุเพลิงไหม้ได้แล้ว แต่คดีก็ยังไม่มีความคืบหน้า 

       ด้าน น.ส.กิตติยา ศิริสุนทร อายุ 43 ปี พี่สาว ของ น.ส.สวิตตา จันทา แคชเชียร์ประจำร้าน ผับ เม้าน์เทน บี ที่เสียชีวิตในที่เกิดเหตุทันที เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้รับเงินทำศพ 50,000 บาท หลังทำศพได้มาเพิ่มอีก 50,000 บาท รวมทั้งหมดเป็นเงิน 100,000 บาท หลังจากนั้นก็ไม่ได้รับการติดต่อกลับมาอีกเลย จริง ๆ แล้ว น้องสาวเป็นพนักงานประจำร้าน และ เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ เคยถามคนที่อยู่ในเหตุการณ์ ทำไมน้องสาวถึงเสียชีวิต จากคำบอกเล่าจากหลายๆคน พูดตรงกันว่า น้องสาวออกมาช้า ในส่วนตัวสงสัยทำไมน้องสาวถึงออกมาช้า หรือ ห่วงอะไรอยู่ ถึงไม่รีบออกมาขณะเกิดเหตุไฟไหม้ หรือห่วงเงินของทางร้าน อีกทั้งน้องสาวมีลูก 2 คน และ เป็นพนักงานประจำร้าน จึงอยากให้เจ้าของมีการเยียวยาค่าดูแลมากกว่านี้ 

         ขณะเรือตรี ภูรี นีน้อย พ่อของนายธนกฤต นีน้อย ผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ตอนนี้ผ่านมา 1 เดือนอีก 10 วัน คดีไม่มีความคืบหน้า ตำรวจไม่มีการเรียกสอบปากคำหรือเรียกไปให้ข้อมูล จากญาติคนเจ็บหรือญาติผู้เสียชีวิต จนทำให้รู้สึกว่าคดีเงียบเกินไป อีกทั้ง หน่วยงานภาครัฐในพื้นที่ไม่มีการเหลียวแล กลุ่มผู้เสียหาย ว่าต้องการอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ ในส่วนตัวเชื่อว่ากลุ่มผู้เสียหายต้องได้รับการดูแลมากกว่านี้ อีกทั้งเชื่อว่า เทศบาล อำเภอ และ ตำรวจ มีส่วนเกี่ยวข้องในการให้เปิดผับแห่งนี้ จนเกิดเหตุโศกนาฏกรรม มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ดังกล่าว จึงเรียกร้องให้หน่วยต่างๆ ในพื้นที่ มีความรับผิดชอบในการดูแลเหยื่อมากกว่านี้  

       นายชำนาญ​ ชื่น​เพ็ชร​ พ่อของ​ น.ส​ ศิลป์​ศุภา​ ชื่น​เพ็ชร​ นิสิตนักศึกษามหาวิทยาลัยรังสิต หนึ่งในผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ไฟไหม้ เปิดเผยว่า ในเรื่องของการเยียวยายังมองว่า ยังไม่มีความจริงใจ โดยเจ้าของจะจ่ายในลักษณะเบี้ยหัวแตก โทรไปหาแต่ละครั้ง ถึงจะยอมโอนเงินมาให้ โอนทีครั้งละ 1 – 2 หมื่น สำหรับลูกสาว นอนโรงพยาบาลมา 1 เดือน อีก 3 วัน ต้องผ่าตัดเอาชิ้นเนื้อขาที่แขน และ แผ่นหลัง ในความเป็นจริง ถือว่าสาหัส แต่พอโทรไปหาเจ้าของ กลับมาบอกว่าไม่สาหัส ตนจึงมองว่าเจ้าของไม่มีความจริงใจ ในการเยียวยา จึงอยากเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการกับเจ้าของ ให้มีการดูแลกลุ่มผู้เสียหายมากว่านี้ 

 นิราช ทิพย์ศรี /นันทพล  ทิพย์ศรี  อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี 0909535645,0945565622/086-3684323